สวัสดีค่ะ ชื่อแพทย์หญิงวรารัตน์ สิริกุตตา ชื่อเล่น หมอมิว ตอนนี้อายุ 38 ปี อาชีพเป็นแพทย์ค่ะ ตอนนี้เป็นแพทย์ประจำอยู่ที่ So Meko Clinic เป็นคลินิกด้านศัลยกรรมความงามและผิวพรรณ โดยส่วนตัวแต่งงานมาแล้วทั้งหมด 7 ปี ปัจจุบันมีลูกสาว 2 คน ลูกสาวคนแรกอายุ 4 ปี ส่วนคนที่สองอายุ 2 ปี แล้วค่ะ
ขั้นตอนการฝากไข่มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ โดยการฝากไข่ที่ Beyond IVF จะมีทั้งหมด 7 ขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 เข้ารับการปรึกษากับแพทย์
- ขั้นตอนที่ 2 เตรียมความพร้อมด้วยการตรวจร่างกาย
- ขั้นตอนที่ 3 เริ่มกระบวนการกระตุ้นไข่
- ขั้นตอนที่ 4 ติดตามผลขนาดของไข่
- ขั้นตอนที่ 5 ฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก
- ขั้นตอนที่ 6 เก็บไข่
- ขั้นตอนที่ 7 หลังเก็บไข่
ขั้นตอนที่ 1 ปรึกษาแพทย์
เริ่มจากการเข้ามาปรึกษาคุณหมอต้นก่อนนะคะ ก็นั่งพูดคุยถึงจุดประสงค์ที่เราต้องการฝากไข่
Q : ทำไมถึงตัดสินใจฝากไข่
A : ที่ตัดสินใจฝากไข่ก็คือ เป็นหลักประกันของเราในอนาคตค่ะ จริงๆ โดยส่วนตัวแล้วไม่ใช่คนที่มีลูกยากเลย แล้วก็มีลูกแล้ว 2 คนด้วยค่ะ แต่ว่าเนื่องจากว่าเรามีลูกตอนที่อายุเริ่มเยอะ แล้วก็อายุเราก็มากขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจที่จะฝากไข่เก็บไว้ เผื่อว่าในอนาคตเราอยากมีลูกเพิ่มขึ้นอีกค่ะ
Q : ควรฝากไข่ตอนอายุเท่าไหร่ดี
ในร่างกายของผู้หญิงจะมีปริมาณเซลล์ไข่ แล้วก็มีเวลาที่จำกัดมากๆ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในช่วงของการเจริญพันธุ์ จะเริ่มตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงอายุประมาณ 35 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เซลล์ไข่มีคุณภาพสูงค่ะ หลังจากที่อายุ 35 ปีไปแล้ว ปริมาณเซลล์ไข่ก็จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ นอกจากนั้นประสิทธิภาพของฮอร์โมนต่างๆ ในการที่จะทำให้เกิดการตกไข่ก็จะน้อยลงด้วย เพราะฉะนั้นการฝากไข่ถ้าเราเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงที่เราอายุน้อยๆ ยิ่งฝากเร็วเท่าไหร่ก็จะได้ไข่ที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพดีเท่านั้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจร่างกาย
ในการตรวจร่างกายจะเริ่มตั้งแต่การเจาะเลือดเพื่อดูฮอร์โมนก่อนนะคะ ระหว่างรอผลเลือดก็จะเข้าไปนั่งพูดคุยกับคุณหมอต้น พอได้ผลเลือดมาแล้วคุณหมอก็จะแจ้งว่าฮอร์โมน AMH เป็นอย่างไร มีเยอะไหม เพราะฮอร์โมนตัวนี้คุณหมอจะใช้เป็นตัวประเมินยากระตุ้นไข่ที่เราต้องใช้ฉีดกระตุ้นค่ะ
ต่อมาก็จะเป็นการตรวจภายในเพื่อดูไข่ตั้งต้น ซึ่งการตรวจโดย Ultrasound จะเป็นเครื่องมือที่เป็นแท่งและตรวจผ่านทางช่องคลอด แรกๆ ก็แอบเขินคุณหมอแต่พอก่อนจะเริ่มซาวด์พยาบาลจะปิดไฟหมดมีแค่แสงจากจอเครื่อง Ultrasound อย่างเดียวเลยไม่เขินเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 กระตุ้นไข่
ตอนแรกคือกังวลมาก ว่าการฝากไข่มันจะยุ่งวุ่นวาย เราต้องไปฉีดยาอะไรโน้นนี่นั้น มีอะไรสารพัด แต่ว่าพอทำจริง ๆ แล้วเนี่ยคือไม่มีอะไรเลย การฉีดยากระตุ้นไข่ถือว่าเป็นอะไรที่ชิลมากถึงมากที่สุด ไม่น่ากลัวเลยค่ะ เพราะว่าเข็มฉีดยาจะเป็นเข็มเล็ก ๆ แล้วก็สามารถฉีดได้ด้วยตัวเองเลย
สำหรับการฉีดยากระตุ้นไข่ เราสามารถฉีดด้วยตัวเองได้เลย หรือว่าคนที่กลัว กังวล ก็สามารถมาฉีดที่คลินิกได้ เพราะที่คลินิกจะมีคุณพยาบาลคอยดูแลให้ค่ะ
ตอนฉีดยากระตุ้นไข่ ของมิวฉีดยาอยู่ 10 วัน คุณหมอบอกว่าแต่ละคนก็จะมีระยะเวลาในการที่ฉีดแตกต่างกันไป ก็คือประมาณ 10-14 วัน แล้วแต่การตอบสนองของไข่ต่อฮอร์โมนที่ฉีดเข้าไป แล้วก็ปริมาณฮอร์โมนที่ใช้ในการฉีดกระตุ้นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคลเช่นกันค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 ติดตามผลขนาดของไข่
หลังจากฉีดยากระตุ้นไข่ไปครบ 7 วัน คุณหมอก็จะนัดเรามา Ultrasound เพื่อดูว่าไข่ที่ได้นั้นได้กี่ฟอง แล้วก็มีขนาดเท่าไหร่แล้ว ซึ่งอันนี้คือดีมากเลย ชอบมากเลยค่ะ เพราะว่าเคยคุยกับเพื่อนๆ บางคนที่เคยเก็บไข่ เขาบอกว่า ฉันไม่เห็นจะต้องไป Ultrasound หรืออะไรเลย หลังจากที่ฉีดไปแล้วก็นับวันเก็บเลย
ที่ Beyond IVF คือไม่ใช่ เพราะว่าหลังจากฉีดกระตุ้นไข่ไปแล้ว คุณหมอก็นัดมาตรวจดูให้อย่างละเอียด แล้วก็อธิบายดีมากๆ ว่าเราได้ไข่ปริมาณเท่านี้นะ ขนาดเท่านี้นะ จำนวนฟองแต่ละฟอง อันไหนน่าจะไปต่อได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ
ต่อมาคุณหมอจะนัดตรวจ Ultrasound เพื่อประเมินไข่ทั้งหมด 2 ครั้ง อันนี้ประเมินที่ 7 วัน กับ 10 วัน ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการที่มีการตรวจประเมิน Ultrasound ก็คือว่าคุณหมอจะสามารถช่วยปรับโดสฮอร์โมน เพื่อให้เราได้ไข่ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นแล้วก็คุณภาพดีที่สุดค่ะ
ตอนที่ไป Ultrasound เพื่อตรวจดูคุณภาพของไข่ คือตื่นเต้นมากพอขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วก็ เห้ย! มีไข่เราอยู่ในจอ ซึ่งคุณหมอเก่งมาก คุณหมอนำเครื่อง Ultrasound เข้าไปก็เห็นเลย แล้วคุณหมอก็นับๆ มีไข่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ฟอง คือคุณหมออธิบายละเอียดมาก ตัวเองเป็นหมอเองยัง งง ๆ เลยว่ามันนับกันยังไง หมุนไปหมุนมาแล้วนับยังไงให้รู้ว่ามีกี่ฟอง
ขั้นตอนที่ 5 ฉีดยากระตุ้นไข่ตก
วันนี้ถึงวันที่ไข่สุกและได้ตรงตามความต้องการแล้ว ก็จะเริ่มฉีดยากระตุ้นไข่ตกเลยค่ะ ในการฉีดยากระตุ้นไข่ตกเราจะฉีด 36 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาที่คุณหมอนัดเก็บไข่นะคะ
ขั้นตอนที่ 6 เก็บไข่
แล้วก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ ซึ่งก็คือการเก็บไข่นั่นเองค่ะ โดยก่อนการเก็บไข่ คุณหมอจะมีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการเก็บไข่ ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนเก็บไข่
- งดทานอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนเก็บไข่
- งดดื่มน้ำ 6 ชั่วโมงก่อนเก็บไข่
- งดแต่งหน้า
- งดทาเล็บ
- งดฉีดน้ำหอมโดยทั่วไปสำหรับสาว ๆ ที่อายุน้อย ๆ ยังไม่มีสามี ก็จะเป็นการฝากไข่แช่แข็งเอาไว้เพื่อการทำเด็กหลอดแก้ว และการทำ ICSI ในอนาคตค่ะ
แต่ว่าโดยส่วนตัวก็คือมีสามีแล้ว มีลูกแล้ว คุณหมอก็เลยแนะนำว่า ให้เก็บโดยที่ผสมเป็นตัวอ่อนเอาไว้เลย ตอนนั้นเก็บไข่ก็เก็บมาได้ทั้งหมด 21 ฟอง เป็นไข่ที่มีคุณภาพที่ดี สมบูรณ์ที่จะผสมได้ อยู่ในระยะของ Mll ทั้งหมด 18 ฟอง
ขั้นตอนที่ 7 หลังเก็บไข่
หลังจากเก็บไข่เสร็จคุณหมอก็มาคุยมาถามถึงอาการว่ามีอาการอะไรบ้างไหม แล้วพยาบาลก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและดูแลดีมากๆ คุณหมอก็จะให้พักประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อรอให้หายจากอาการมึนจากยาสลบก่อน แล้วถึงกลับบ้านได้
หลังจากเก็บไข่มามิวโชคดีมากเลยเพราะไม่มีผลข้างเคียงแบบที่คนอื่นเคยบอกมาเลย ไม่ท้องอืด ไม่มีอาการอะไรเลย
รีวิวความรู้สึกที่มีต่อการฝากไข่กับ Beyond IVF
ที่ตัดสินใจเลือกที่จะฝากไข่แล้วก็ฝากตัวอ่อนที่ Beyond IVF ก็เพราะว่าก่อนที่ตัดสินใจที่จะฝากไข่แล้วก็ฝากตัวอ่อน ก็คือศึกษาว่าข้อมูลเยอะมาก ๆ เลยค่ะ ว่าจะตัดสินใจฝากไข่ที่ไหนดี โดยส่วนตัวแล้ว นอกจากเรื่องราคาฝากไข่ ปัจจัยที่มีผลกับการฝากไข่มาก ๆ เลยก็คือ
- ในเรื่องของคุณหมอ ประสบการณ์ของคุณหมอ
- คุณภาพของห้องแล็ป
โดยส่วนตัวแล้ว คุณหมอต้น พูนศักดิ์ มีเพื่อนไปฝากเยอะมากแล้วก็แนะนำมา คุณหมอต้น มีประสบการณ์นานกว่า 10 ปี พอได้ไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอให้คำแนะนำดีมาก ๆ ถึงมากที่สุด คุณหมออธิบายให้ฟังอย่างละเอียดทุกขั้นตอนจนเข้าใจ สอบถามตรงไหนคุณหมอก็ให้เวลาเต็มที่ คุณหมอให้เบอร์ไว้ด้วย ถ้ามีอะไรฉุกเฉินโทรหาได้เลย
นอกจากคุณหมอที่เป็นคนช่วยเก็บไข่ให้แล้ว ในส่วนของห้องแล็ป ก็คือมีความสำคัญมาก ๆ ไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะว่าไข่ของเรา ลูกของเรา จะต้องแช่อยู่ในนั้น ดังนั้นที่ตัดสินใจเลือกที่ Beyond IVF ก็เพราะว่าที่ Beyond IVF ใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน มีห้องแล็ปที่มีมาตรฐานสูง เครื่องมือทุกอย่างเป็นเครื่องมือที่ทันสมัย มาตรฐานเดียวกับที่อเมริกาค่ะ
โดยส่วนตัวคิดว่าการเก็บไข่ ถือว่าเป็นการทำหัตถการ ซึ่งตรงนี้ประสบการณ์ของคุณหมอคือสำคัญมากๆ การที่จะเอาเครื่องมือเข้าไปในมดลูกของเรา เพื่อเข้าไปเก็บไข่ต้องมีความชำนาญแล้วก็มีประสบการณ์ เพื่อที่ว่าไข่ของเราที่ได้มาจะมีคุณภาพที่ดี บอบช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนานค่ะ
ฝากถึงสาวๆ ที่ยังไม่รู้จะฝากไข่ไปทำไม
สำหรับใครที่รู้สึกว่าการฝากไข่ มันเป็นเรื่องไกลตัว มันเป็นอะไรที่แบบจะทำไปทำไม อยากให้ลองศึกษาดูค่ะ เพราะว่าทุกวันนี้คนเราเริ่มแต่งงานตอนที่อายุมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีลูกช้าลงเรื่อยๆ การฝากไข่มันเหมือนว่า เป็นหลักประกันให้เรา เหมือนการที่เราประกันสุขภาพ ซื้อประกันชีวิตค่ะ เพราะว่ายิ่งเราฝากไข่ไว้ตั้งแต่เราอายุน้อย ไข่ของเราก็จะมีคุณภาพดี มีประสิทธิภาพดี
ส่วนตัวก็แอบรู้สึกว่าตัวเองมาฝากไข่ช้าไปหน่อย เพราะว่าหลังจากที่อายุ 35 ปีแล้ว ถ้าเลือกได้นะคะ ก็คิดว่าคงจะไปฝากตั้งแต่ตอนที่อายุ 25 ปีแล้วค่ะ สำหรับใครที่สนใจหรือว่ามีข้อสงสัยอะไร สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอต้น พูนศักดิ์ ที่ Beyond IVF โดยการจองคิวผ่านทางไลน์ @beyondivf ปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
