Skip to content

ตรวจฮอร์โมน AMH เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก


01 เมษายน 2025
บทความ

สาเหตุของการมีบุตรยาก สามารถตรวจได้จากฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสำหรับฝ่ายหญิง ฮอร์โมน AMH (Anti-Mullerian Hormone) สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นผู้มีบุตรยากหรือไม่ โดยฮอร์โมนตัวนี้มีความเกี่ยวข้องกับรังไข่ที่เป็นส่วนสำคัญหลักในการสืบพันธุ์ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้วฮอร์โมน AMH ทำหน้าอย่างไร สำคัญแค่ไหน แล้วเมื่อพบว่าฮอร์โมน AMH ไม่สมดุลหมายถึงอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไร

ทำความรู้จัก ‘ฮอร์โมน AMH

ฮอร์โมน AMH (Anti-Mullerian Hormone) คือ ฮอร์โมนที่ถูกสร้างมาจากเซลล์ไข่ในรังไข่ของผู้หญิง เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่และบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ในขณะนั้น ฮอร์โมน AMH จะมีค่าสูงในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์และลดลงเรื่อยๆจนหมดไปเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

การตรวจฮอร์โมน AMH กับการตั้งครรภ์

การตรวจวัดระดับฮอร์โมน AMH จะเป็นการตรวจเพื่อทดสอบสมรรถภาพของรังไข่ โดยการเจาะเลือดสามารถบอกได้ว่ารังไข่ทำงานปกติหรือไม่ รวมถึงสามารถวัดได้ว่าในรังไข่ยังมีไข่สะสมอยู่มากน้อยแค่ไหน เพื่อประเมินโอกาสการตั้งครรภ์ และยังช่วยให้แพทย์แนะนำแนวทางเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้กับคุณผู้หญิงได้มากขึ้น

อีกทั้งในกระบวนการเทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร ไม่ว่าจะเป็น IVF หรือ ICSI นั้นต่างก็ใช้ค่าบ่งชี้ของ AMH ในการทำนายว่า รังไข่จะสามารถตอบสนองการกระตุ้นไข่ด้วยยาที่ใช้มากแค่ไหน และควรใช้ปริมาณยามากน้อยเท่าไหร่ เพื่อให้มีการผลิตไข่ออกมาในปริมาณที่เหมาะสม


ขั้นตอนการตรวจฮอร์โมน AMH

  1. พยาบาลจะซักประวัติของคุณแม่เบื่องต้นก่อน
  2. พยาบาลจะพาไปชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เสร็จแล้วพยาบาลจะพาไปพบแพทย์
  3. พบแพทย์ แพทย์จะซักประวัติ เช่น โรคประจำตัว ยาปฏิชีวนะที่ใช้ เคยมีประวัติความผิดปกติของโครโมโซมไหม ประวัติโรคประจำตัวของคนในครอบครัว
  4. เจาะเลือด และนำไปตรวจ AMH เพื่อหาความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นและตรวจการทำงานของรังไข่
  5. รอผลตรวจ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ค่าปกติของฮอร์โมน AMH

  • ฮอร์โมน AMH มากกว่า 4 ng/ml ถือว่าเป็นภาวะฮอร์โมนสูง สามารถบอกถึงสุขภาพภายในของฝ่ายหญิงได้ว่า อาจเสี่ยงต่อภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS (Polycystic ovary syndrome)
  • ฮอร์โมน AMH อยู่ในช่วง 1 – 4 ng/ml เป็นค่าฮอร์โมนปกติ
  • ฮอร์โมน AMH อยู่ในช่วง 0.3 – 1 ng/ml ถือว่าเป็นภาวะฮอร์โมนที่ค่อนข้างต่ำ สามารถบอกถึงสุขภาพภายในของฝ่ายหญิงได้ว่า มีจำนวนไข่อยู่ค่อนข้างน้อย เสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
  • ฮอร์โมน AMH น้อยกว่า 0.3 ng/ml ถือว่าเป็นภาวะฮอร์โมนต่ำ สมารถบอกถึงสุขภาพภายในของฝ่ายหญิงได้ว่า ตอนนี้จำนวนไข่เหลืออยู่จำนวนน้อยมากแล้ว มีภาวะบุตรยากสูง หากต้องการมีบุตรต้องปรึกษาแพทย์

ระดับค่า AMH ตามช่วงวัยและอายุ

  • ช่วงอายุ 18-24 ปี ค่าฮอร์โมน AMH 2.15-8.40 ng/mL
  • ช่วงอายุ 25-29 ปี ค่าฮอร์โมน AMH 1.20-8.76 ng/mL
  • ช่วงอายุ 30-34 ปี ค่าฮอร์โมน AMH 0.80-7.00 ng/mL
  • ช่วงอายุ 35-39 ปี ค่าฮอร์โมน AMH 0.11-5.15 ng/mL
  • ช่วงอายุ 40-44 ปี ค่าฮอร์โมน AMH 0.10-3.84 ng/mL

ใครบ้างที่ควรตรวจฮอร์โมน AMH

  • ผู้หญิงที่ต้องการตรวจว่ามีไข่อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์หรือไม่
  • ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี และพยายามตั้งครรภ์มานานกว่า 12 เดือน
  • ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี และพยายามตั้งครรภ์มานานกว่า 6 เดือน
  • ผู้หญิงที่ต้องการฝากไข่ เพื่อวางแผนการมีบุตรในอนาคต
  • ผู้หญิงที่ผ่านการรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดหรือการผ่าตัดรังไข่
  • ผู้หญิงที่มีความจำเป็นต้องรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัด หรือต้องผ่าตัดรังไข่ในระยะอันใกล้

ข้อสรุป

ฮอร์โมน AMH คือฮอร์โมนที่ผลิตจากการเซลล์ไข่ และสามารถบ่งบอกได้ถึงจำนวนไข่ที่มีในรอบนั้นๆ รวมถึงการทำงานของรังไข่ว่ายังทำงานปกติหรือไม่ หากค่าฮอร์โมน AMH สูงก็จะเสี่ยงกับการเป็นถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) แต่หากมีค่าฮอร์โมน AMH ต่ำ ก็จะบ่งบอกว่าคุณเข้าข่ายเป็นผู้มีบุตรยาก (โดยระดับค่าฮอร์โมน AMH สูงและต่ำ เทียบกับค่าเหลี่ยในช่วงอายุเดียวกัน)

ทั้งนี้การตรวจฮอร์โมน AMH จึงมีความสำคัญกับผู้ที่กำลังวางแผนในการมีลูกเป็นอย่างมาก หากท่านไหนลองวิธีธรรมชาติมาตั้ง 6-12 เดือนแล้วยังไม่ตั้งครรภ์แนะนำให้รีบปรึกษาเพื่อให้แพทย์ช่วยหาแนวทางในการรักษา หากท่านไหนไม่สะดวกเดินทางไปพบแพทย์สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @beyondivf

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

แท้งมา 3 ครั้งยังมีโอกาสท้องได้อีกไหม ? ตอบถามโดย คุณหมอกิตติ ฉัตรตระกูลชัย

Read the story
บทความ

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด มีลูกได้ไหม? อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา

Read the story
บทความ

กรดโฟลิก (Folic Acid) คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรกับคุณแม่ตั้งครรภ์?

Read the story
บทความ

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ควรซาวด์ตอนกี่เดือน บอกอะไรได้บ้าง?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ