Skip to content

มีลูกยาก คืออะไร? รักษาได้อย่างไร? หาคำตอบจากแพทย์ได้ที่นี่


25 เมษายน 2025
บทความ

ภาวะมีลูกยาก ปัญหาใหญ่ของคู่รักที่อยากมีลูก

ภาวะการมีลูกยากหรือภาวะมีบุตรยาก (infertility) ปัญหาที่คู่รักหลายคู่กำลังเจออยู่พยายามมีบุตรมานานหลายปีไร้วี่แววการตั้งครรภ์ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้ไม่รู้ต้องเริ่มการ รักษายังไงสามารถหาคำตอบได้เลยที่นี่

ปัญหาการมีลูกยาก (infertility)

ในปัจจุบันปัญหาเรื่องมีบุตรยากไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป สถานการณ์การมีบุตรยากของคนไทยในปัจจุบันพบมากถึง 12 ล้านคน แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าปัญหาที่ตัวเองพบหรือภาวะที่ตัวเองกำลังประเชิญอยู่ถือว่ามีบุตรยากหรือไม่ มาดูรายละเอียดกันว่า การมีลูกยากนั้นคืออะไร

EP1: จะรู้ได้ยังไงว่ามีลูกยาก? Q&A “ถามตอบกับคุณหมอต้น”

https://youtube.com/watch?v=hfPq4YSY14c

มีลูกยาก หรือ ภาวะการมีบุตรยาก คืออะไร

การมีบุตรยาก (infertility) คือ ภาวะที่คู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กันแล้วยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในเวลาที่สมควร โดยหลักทางการแพทย์จะถือว่าผู้ที่อายุเกิน 35 ปี หรือผู้ที่ปล่อยตามธรรมชาติมากเกินกว่า 1 ปี (โดยไม่สนใจอายุ) แล้วยังไม่ตั้งครรภ์ถือว่าเข้าข่ายเป็นผู้มีบุตรยาก มีปัญหาเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ที่จุดใดจุดนึง ควรรีบปรึกษาแพทย์

สาเหตุ ของการมีบุตรยาก มีลูกยาก เกิดจากอะไร เพราะอะไรถึงเป็น?

ปกติสาเหตุของภาวะมีบุตรยากจะเกิดจาก

  • ฝ่ายหญิง 40%

  • ฝ่ายชาย 25%

  • เกิดจากทั้งสองฝ่าย 20%

  • ไม่พบสาเหตุอีก 15%

ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและแก้ไขได้ตรงจุดเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

ปัญหามีลูกยากที่เกิดจากผู้หญิง

ปัญหาการมีบุตรยากที่สาเหตุมาจากฝ่ายหญิงมีหลากหลายปัจจัยเพราะการตั้งครรภ์ใช้เวลาส่วนใหญ่ของกระบวนการในร่างกายฝ่ายหญิงมากกว่า

สามารถแบ่งหลักๆได้ 2 ปัจจัย

  • เซลล์ไข่ฝ่ายหญิงปัญหาที่เกิดจากเซลล์ไข่ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการปฏิสนธิกับอสุจิถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาวะการตั้งครรภ์โดยเซลล์ไข่จะมีภาวะที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุดในช่วงการเจริญพันธุ์หากอายุผ่านไปมากกว่า 30 ปีแล้ว ก็จะทำให้คุณภาพใครเสื่อมลงและมีจำนวนลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว


อาการที่มักพบคือ

– ไข่ตั้งต้นเหลือน้อย
– ไข่ไม่สมบูรณ์
– เปลือกไข่หนา
– ไข่ฝ่อ

  • มดลูกฝ่ายหญิงปัญหาจากฝ่ายหญิงสิ่งที่สองคือ มดลูก ที่ซึ่งเป็นที่เดินทางของอสุจิและเป็นที่ฝังตัวของตัวอ่อนนั่นเอง หากท่อนำไข่เกิดการอุดตันอสุจิไม่สามารถเดินทางมาหาเซลล์ไข่ได้ก็จะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ (สามารถตรวจได้โดยการฉีดสีดูท่อนำไข่) หรือในตัวของมดลูกเองหากภายในเกิดเนื้องอกหรือซีสต์ มีสิ่งแปลกปลอม นี่ก็จะเป็นอีกปัญหาที่ทำให้ไม่ตั้งครรรภ์ได้ (สามารถตรวจได้โดย การ Ultrasound ตรวจภายใน)

ปัญหามีลูกยากที่เกิดจากผู้ชาย

ปัญหาการมีบุตรยากไม่ใช่สาเหตุที่เกิดมาจากเพียงแค่ฝ่ายหญิงเท่านั้นมีส่วนหนึ่งที่เกิดมาจากฝ่ายชาย โดยฝ่ายชายอาการที่มักพบได้บ่อยคือ อสุจิไม่แข็งแรง ไม่พบตัวอสุจิ หรือ รูปร่างไม่สมบูรณ์เป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ และการตรวจว่าฝ่ายชายมีความผิดปกติหรือไม่ สามารถตรวจได้จาก “การตรวจคุณภาพอสุจิ” แพทย์จะพิจารณาจากผลตรวจโดยรวมเกี่ยวกับจำนวนตัวหรือความแข็งแรงมากพอที่จะเจาะทะลุไข่ได้หรือไม่

ภาวะมีลูกยากโดยไม่ทราบสาเหตุ

ภาวะมีลูกยากโดยไม่ทราบสาเหตุสามารถพบได้ประมาณ 10% ในคู่สมรสที่เข้าข่ายภาวะมีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ หากได้มีการเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายแล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ เช่น ตรวจคุณภาพของอสุจิ ตรวจความผิดปกติบริเวณมดลูกหรือตรวจหาภาวะโพรงมดลูกเจริญผิดที่เป็นต้น กรณีนี้แพทย์จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการฉีดเชื้อ (IUI) ก่อนหากยังไม่ประสบความสำเร็จจะพิจารณาทำเด็กหลอดแก้ว ( IVF/ICSI ) เป็นลำดับต่อไป

วิธีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยาก

เข้ามาปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์จะตรวจประเมิน ดังนี้

การตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากฝ่ายหญิง

  • การตรวจ Ultrasound ภายในเพื่อเช็ค ผนังมดลูก หรือความผิดปกติของมดลูกและรังไข่

  • ตรวจฮอร์โมน ยกตัวอย่างเช่น ตรวจฮอร์โมน AMH หรือ Anti-Müllerian hormone คือ ฮอร์โมนที่ถูกสร้างมาจากใข่ใบเล็กๆ ในรังไข่ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่เหลืออยู่ของผู้หญิงในขณะนั้น (การตรวจ AMH คือการเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน AMH ซึ่งระดับเลือดของฮอร์โมนนี้สามารถบ่งบอกว่ามีจำนวนไข่เหลืออยู่มากน้อยเพียงใด การตรวจ AMH ถือเป็นวิธีการชี้วัดปริมาณไข่ที่มีอยู่ในรังไข่ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน

การตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากฝ่ายชาย

  • ตรวจคุณภาพอสุจิ เพื่อเช็คว่าจำนวนอสุจิมีตรงตามมาตรฐานหรือไม่ แล้วตัวอสุจิที่มีอยู่นั้นแข็งแรงขนาดไหน

โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการประเมินภาวะมีบุตรยากได้ หลังจากตรวจประเมินแล้วแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาตามบุคคลไป

ภาวะการมีบุตรยากวิธีแก้ไข แนวทางการรักษา ทำได้อย่างไรบ้าง

1. IUI

วิธีนี้ใกล้เคียงกับการมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติเพียงแต่แพทย์จะจ่ายยาเพื่อให้เซลล์ไข่มีขนาดที่ใหญ่และจำนวนที่มากขึ้น รวมถึงมีการคัดเชื้ออสุจิเอาเฉพาะที่แข็งแรง ฉีดกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเพิ่มโอกาสให้อสุจิว่ายเข้าใกล้เซลล์ไข่มากขึ้น

โอกาสสำเร็จในวิธีนี้คือ 10-15%

อ่านเพิ่มเติม : IUI คืออะไร?


2. IVF/ICSI เด็กหลอดแก้ว

เป็นวิธีที่พัฒนามาจากการทำกิ๊ฟท์สมัยก่อน แต่มีโอกาสสำเร็จมากกว่าแถมไม่ต้องผ่าหน้าท้อง โดยการฉีดยาเพื่อกระตุ้นเซลล์ไข่เป็นเวลา 10-12 วัน แล้วเจาะเอาเซลล์ไข่ออกมาปฏิสนธิกับอสุจิภายในห้องแล็บ เลี้ยงจนเป็นตัวอ่อนและย้ายกลับเข้าโพรงมดลูกของฝ่ายหญฺงเจริญเติบโตในครรภ์ต่อไป

โอกาสสำเร็จในวิธีนี้คือ 70-80%

อ่านเพิ่มเติม

3. ฝากไข่ ก่อนอายุจะมากขึ้น

ฝากไข่ คือ การนำเซลล์ไข่ที่ผู้หญิงที่มีในร่างกายออกมาแช่แข็งไว้เพื่อหยุดอายุเซลล์สืบพันธ์ ป้องกันการเสื่อมสภาพตามอายุ เมื่อเราอายุมากขึ้นเซลล์ไข่ยิ่งเสื่อมลงเป็นปัญหาทำให้มีลูกยากและเด็กที่เกิดมาไม่แข็งแรง

ในปัจจุบันคู่สามีภรรยาในประเทศกำลังพัฒนา ประสบกับปัญหาด้านการมีบุตร ทั้งนี้ เป็นผลพวงมาจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้หญิงส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะแต่งงาน และมีลูกในช่วงอายุที่มากขึ้นการฝากไข่ไว้ก่อนในช่วงที่อายุยังไม่มากถือว่าเป็นอีกเทรนด์ที่สาวๆนิยมทำกันในช่วงนี้

รีวิวรักษามีบุตรยากแบบ IVF คุณปีโป้และคุณแคทตี้ที่ BeyondIVF

https://youtube.com/watch?v=mv5CnfhS3uc

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับปัญหาการมีลูกยาก

ผนังมดลูกหนา มีลูกยาก จริงไหม

จริง ขนาดที่เหมาะสมของผนังมดลูกต่อการมีบุตรคือ 8-10 มิลลิเมตร หากมากหรือน้อยกว่านั้นก็จะส่งผลต่อปัญหาการมีลูกยากได้ ในแต่ละกรณีควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

ช่องคลอดเป็นกรดเป็น ปัญหาการมีลูกยาก จริงไหม

จริง ในกรณี่พูดถึงความผิดปกติของช่องคลอดจะส่งผลให้เกิดปัญหาการมีลูกยากได้ ผู้หญิงจึงควรมีการตรวจ thin prep หรือเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกเพื่อดูความปกติก่อนตั้งครรภ์

กินยาคุมนานทำให้เกิด ปัญหาการมีลูกยาก จริงไหม?

ไม่จริงการรับประทานยาคุมเป็นเวลานานไม่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาการมีลูกยาก

ไทรอยด์ เป็นปัญหาการมีลูกยาก จริงไหม?

จริง ภาวะที่เกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ส่งผลทั้งก่อนและหลังตั้งครรภ์แต่ไทรอยด์นั้นมีหลายประเภท จึงควรปรึกษาแพทย์ทั้งแพทย์ที่รักษาไทรอยด์และแพทย์รักษามีบุตรยากควบคู่กันไป ไม่ควรหยุดยาหรือการรักษาด้วยตัวเอง

อ่านเพิ่มเติม : เป็นไทรอยด์ มีลูกยากจริงไหม?

ฮอร์โมนเพศชายเยอะเป็น ปัญหาการมีลูกยาก จริงไหม?

จริง เพราะการมีบุตรประกอบด้วยฮอร์โมนถึง 6 ตัวหากมีตัวใดผิดปกติส่งผลให้เกิดปัญหามีลูกยากได้

สรุป

หากท่านใดต้องเจอภาวะมีบุตรยากแนะนำให้รีบเข้าพบพทย์เพื่อเข้าตรวจเช็คร่างายเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัดรวมไปถึงวางแผนการรักษา ซึ่งในปัจจุบันนี้ในทางการแพทย์นั้นค่อนข้างก้าวไปไกลมากถึงวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่เข้าข่ายภาวะมีบุตรยากหลากหลายวิธีที่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้โดยจะต้องขึ้นอยู่กับช่วงอายุ ปัญหา โดยแพท์จะพิจารณาให้เข้ากับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด

หากท่านไหนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line@ : @beyondivf

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story
บทความ

Infertility: Causes, Symptoms, Tests, and Treatments

Read the story
บทความ

เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร? ต่างกับ อิ๊กซี่ ICSI ไหม ต้องรู้อะไรอีกบ้างก่อนทำ

Read the story
บทความ

ทำ ICSI เด็กหลอดแก้วตรวจโครโมโซม NGS ดีไหม?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ