Skip to content

ยากระตุ้นไข่ตก สำหรับคนอยากมีลูก ใช้อย่างไร หาซื้อเองได้ไหม


27 มีนาคม 2025
บทความ

สำหรับคนที่อยากมีลูก แน่นอนว่าจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์มาตั้งแต่เนิ่นๆอยู่แล้ว เพราะการเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์ค่อยข้างสำคัญ พอเริ่มเตรียมตัวในการตั้งครรภ์ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนในการมีบุตร

ซึ่งยากระตุ้นไข่ตกก็อยู่ในขั้นตอนของการเริ่มรักษามีบุตรยาก หลายๆคนอาจจะสงสัยว่ายากระตุ้นไข่ตกคืออะไร ใช้อย่างไร เรามีคำตอบมาให้ดังนี้

ยากระตุ้นไข่ตก คืออะไร

การกระตุ้นไข่ตกถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการรักษาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งยากระตุ้นไข่ก็คือยาปรับฮอร์โมนเพศหญิงที่ใช้เข้าไปกระตุ้นให้รังไข่ผลิตเซลล์ไข่มากขึ้น เร่งให้ไข่โตและมีความสมบูรณ์มากที่สุด เพื่อที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่มีบุตรยากแต่อยากมีลูกมากยิ่งขึ้น

ยากระตุ้นไข่ตก มีกี่ประเภท

ยากินกระตุ้นไข่ตก

ยากินกระตุ้นไข่ตก ยากระตุ้นไข่ตกจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมนที่จะเข้าไปกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่เข้าไปกระตุ้นไข่ให้มีคุณภาพและสมบูรณ์ที่สุด

ยาฉีดกระตุ้นไข่ตก

ยาฉีดกระตุ้นไข่ตก จะเป็นการฉีดฮอร์โมนเพื่อเข้าไปกระตุ้นการสร้างไข่โดยตรง การฉีกยากระตุ้นไข่จำเป็นต้องฉีดให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อรักษาปริมาณฮอร์โมนในกระแสเลือดให้คงที่ไม่คลาดเคลื่อน

การฉีดยากระตุ้นไข่ช้าหรือไม่ตรงเวลาจะส่งผลให้คุณภาพของไข่ลดลงหรือพอถึงกำหนดวันเก็บไข่ไข่ที่ได้อาจจะไม่โตพอที่พร้อมจะให้เก็บ

ถ้าจะให้บอกว่ายากระตุ้นไข่ตกยี่ห้อไหนดีที่สุด คงไม่สามารถตอบได้ เพราะแต่ละคลินิกหรือแต่ละโรงพยาบาลอาจจะใช้ยี่ห้อที่ต่างกันออกไป

ขึ้นอยู่กับการออกแบบในการรักษาของคุณหมอแต่ละท่าน ยากระตุ้นไข่แต่ละตัวจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ซึ่งความเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละบุคคลอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่ายี่ห้อของยากระตุ้นไข่ตัวไหนดีที่สุด

โดยปัจจุบันในประเทศไทยมียี่ห้อที่นิยมใช้อยู่ 4 ยี่ห้อ

  1. ยากระตุ้นไข่ตก Ovinum
  2. ยากระตุ้นไข่ตก Clomid
  3. ยากระตุ้นไข่ตก Serophene
  4. ยากระตุ้นไข่ตก Ovamit


ยากระตุ้นไข่ตก ซื้อที่ไหน หาซื้อเองได้ไหม

การใช้ยากระตุ้นไข่ไม่ควรซื้อมากินหรือฉีดเอง ควรได้มาจากการที่แพทย์เป็นคนจ่ายยาให้เพราะว่าการใช้ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียง

ควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยให้อย่างละเอียดเพื่อช่วยวางแผนในการรักษาและจ่ายยากระตุ้นไข่ให้ได้จำนวนโดสที่ถูกและเหมาะสม ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายได้

วิธีการใช้ ยากระตุ้นไข่ตก กินตอนไหน ฉีดอย่างไร

  • ยากระตุ้นไข่แบบกิน จะให้กินตามจำนวนที่แพทย์สั่ง (ซึ่งแต่ละคนอาจจะได้กินในจำนวนที่ไม่เท่ากัน) กินเป็นระยะเวลา 5 วัน
  • ยากระตุ้นไข่แบบฉีด จะฉีดห่างจากสะดือ 2 นิ้ว ฉีดเวลาเดิมทุกวันประมาณ 10-15 วัน (ขึ้นอยู่กับแพทย์กำหนดให้)


ยากระตุ้นไข่ตก สามารถทำลูกแฝดได้หรือไม่

ยากระตุ้นไข่ตก สามารถทำลูกแฝดได้หรือไม่

ถ้าเป็นการรักษาแบบ IUI การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก การกระตุ้นไข่ตกมีโอกาสทำให้เกิดลูกแฝดได้ แต่ไม่สามารถควบคุมการเป็นแฝดได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นข้อเสียมากกว่าจะเป็นข้อดี

หากไข่ตกจำนวนมากแล้วปฏิสนธิทั้งหมดจะมีโอกาสทำให้เกิดแฝดมากกว่าสองอาจจะเป็นสี่หรือห้า ซึ่งในภาวะนี้จะไม่สามารถตั้งครรภ์ต่อไปได้ แล้วคุณแม่จะมีอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

ซึ่งโดยปกติแล้วการรักษาแบบ IUI ถ้ากระตุ้นไข่ได้เกิน 3 ใบ แพทย์จะหยุดการรักษาในรอบนั้นเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจจะส่งผลอันตรายถึงชีวิตของคุณแม่ได้


สรุป

การใช้ยากระตุ้นไข่ตกถือว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการรักษามีบุตรยากเพื่อช่วยให้รังไข่ผลิตเซลล์ไข่ให้มากกว่าปกติและได้ไข่ที่มีคุณภาพที่สุด แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่้างเข้มงวด

เพราะว่าการใช้ยากระตุ้นไข่มีผลข้างเคียงขึ้นอยู่กับบุคคล ดังนั้นหากคุณผู้หญิงท่านไหนมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก รังไข่ และเรื่องการตกไข่ แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจดูถึงปัญหาอย่างละเอียด และแพทย์จะกำหนดโดสยาที่ต้องกินหรือฉีดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

ตรวจฮอร์โมน AMH เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก

Read the story
บทความ

แท้งมา 3 ครั้งยังมีโอกาสท้องได้อีกไหม ? ตอบถามโดย คุณหมอกิตติ ฉัตรตระกูลชัย

Read the story
บทความ

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด มีลูกได้ไหม? อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา

Read the story
บทความ

กรดโฟลิก (Folic Acid) คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรกับคุณแม่ตั้งครรภ์?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ