Skip to content

ตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่ ราคาเท่าไหร่ บอกอะไรได้บ้าง?


01 เมษายน 2025
บทความ

ในปัจจุบันผู้หญิงหลายๆคนเริ่มจะหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจภายใน หรือการอัลตราซาสด์มดลูก รังไข่ เผื่อตรวจหาความผิดปกติที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงมองข้ามการตรวจภายใน เพราะมองว่ายังไม่มีอาการอะไรไม่จำเป็นต้องตรวจก็ได้

วันนี้เราจะมาบอกถึงความสำคัญในการตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ว่ามีความสำคัญอย่างไร แล้วการตรวจนี้สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

อัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่ (Pelvic Ultrasound)

เนื่องจากมดลูกและรังไข่เป็นอวัยวะภายในที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า หากเกิดความผิดปกติที่มดลูกหรือรังไข่จะไม่สามารถทราบได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจภายในเป็นประจำทุกปี เพราะโรคทางอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงในบางโรคมักจะไม่ค่อยแสดงอาการให้ทราบ และโรคที่ผู้หญิงเป็นและเสียชีวิตมากที่สุดคือ มะเร็งปากมดลูก

ทำความรู้จักมดลูกและรังไข่

มดลูกเป็นอวัยวะที่แข็งแรงมาก เพราะเป็นกล้ามเนื้อจำนวนสามชั้นเรียงทับกัน แต่มีขนาดเล็กประมาณเท่าลูกแพร์ มีลักษณะเป็นโพรงมีทางแยกเล็กๆ สามช่อง คือ ช่องคลอด และอีกสองทางแยกคือมดลูกซ้ายและขวา หรือที่เรียกว่าปีกมดลูก

รังไข่ของผู้หญิงเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็กเชื่อมต่อกับปีกมดลูก ทำหน้าที่ผลิตเซลล์สืบพันธุ์และฮอร์โมนเพศหญิง เมื่อถึงวันนั้นของเดือนรังไข่จะปล่อยไข่ที่สุกเต็มที่เข้าสู่ปีกมดลูกเพื่อเข้ากระบวนการสืบพันธุ์

การตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกสำคัญอย่างไร

1. เพื่อคัดกรองความผิดปกติ

เพื่อตรวจหาความผิดปกติ เพราะโรคบางโรคมักจะไม่แสดงอาการแต่จะถูกพบจากการตรวจภายใน เช่น เนื้องอกที่มดลูก มะเร็งปากมดลูกระยะ ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นต้น

2. ช่วยวินิจฉัยสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก

ช่วยหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก แพทย์จะตรวจอัลตร้าซาวด์เช็คมดลูก รังไข่ เพื่อดูความผิดปกติจากด้านใน จะตรวจดูว่ามดลูกมีการเจริญผิดที่ไหม มีเนื้องอกในมดลูก หรือท่อนำไข่อุดตันหรือเปล่า การตรวจภายในนั้นเป็นการตรวจที่แพทย์สามารถมองเห็นได้ ไม่ซับซ้อน


อาการแบบไหนที่ควรเข้าตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก

  • มีประจำเดือนมามากหรือน้อยผิดปกติ รอบเดือนนานกว่า 35 วันหรือสั้นกว่า 21 วัน ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย มีลิ่มเลือดปน มีกลิ่นเหม็น
  • ตกขาวผิดปกติ มีปริมาณมาก มีสี กลิ่นที่ผิดปกติ มีตกขาวเป็นมูกข้นคล้ายแป้ง มีสีเขียวหรือเหลือง และเริ่มส่งกลิ่นแรงขึ้น มีเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
  • ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือนและไม่มีประจำเดือน
  • รู้สึกแสบขัดในช่องคลอด
  • สงสัยว่ามีก้อนหรือคลำพบก้อนที่ท้องน้อย

วิธีตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกทางหน้าท้อง

วิธีตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกทางช่องคลอด

ตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด โดยแพทย์จะสอดหัวตรวจอัลตร้าซาวด์ที่มีความแตกต่างจากหัวตรวจทางหน้าท้องเข้าไปทางช่องคลอด ข้อดีคือหัวตรวจจะเข้าไปใกล้ตำแหน่งมดลูกและรังไข่ได้มากกว่าการตรวจทางหน้าท้อง แพทย์จึงสามารถมองเห็นภาพของมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนกว่า

ขั้นตอนการตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด

  • โดยแพทย์จะสอดหัวอัลตราซาวด์เข้าไปในช่องคลอด (หัวอัลตราซาวด์จะมีลักษณะเป็นแท่งเล็กๆที่ต่างกับการอัลตราซาวด์หน้าท้อง)
  • หัวตรวจจะเข้าใกล้ตำแหน่งของมดลูกและรังไข่ได้มากกว่าการตรวจทางช่องท้อง ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นภาพของมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนกว่า

ตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก บอกโรคอะไรได้บ้าง

1. โรคช็อกโกแลตซีสต์

ทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากการที่เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ คือ แทนที่เลือดจะไหลออกมาทางช่องคลอดตามปกติ แต่กลับมีประจำเดือนส่วนหนึ่งไหลย้อนไปทางหลอดมดลูกเข้าไปในช่องท้องแล้วไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำ หรือถุงที่มีเลือดคั่ง

2. โรคมะเร็งมดลูกหรือรังไข่

โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัส HPV เป็นหนึ่งในโรคที่คุณผู้หญิงมีโอกาสเป็นได้เยอะเป็นอันดับที่ 2 รองจากมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์หรือแต่งงานแล้วจะมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

3. โรคเนื้องอกมดลูกหรือรังไข่

มักเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัย 25-30 ปี อาการที่พบคือ คลำเจอก้อนเนื้อในท้องน้อย หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ ส่วนการรักษาจะเป็นไปตามอาการ หากอยู่ในระยะแรกแพทย์จะให้รับประทานยาเพื่อสลายก้อนเนื้อ แต่ถ้าหากก้อนเนื้อนั้นไม่หายไป แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัด

4. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ทำให้มีปัญหามดลูกโต เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือบางคนก็ประจำเดือนมามากจนซีด ส่งผลให้ปวดท้องประจำเดือน รวมถึงปวดท้องน้อยเรื้อรัง


ค่าใช้จ่ายตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก ราคาเท่าไหร่

ค่าใช้จ่ายในการอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาล แต่ที่ Beyond IVF ของเราราคาจะอยู่ที่ 2,500 บาท ตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้ได้ผลลัพท์ที่แม่นยำ


ข้อสรุป

การตรวจอัลตราซาวด์มดลูก และรังไข่ คือการตรวจหาความผิดปกติที่ไม่แสดงอาการและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น เนื้องอก ช็อกโกแลตซีสต์ และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น นอกจากนี้การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกยังสามารถช่วยวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากได้อีกด้วย อาการหลักๆ เมื่อเป็นและควรรีบมาพบแพทย์ คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาวผิดปกติ แสบช่องคลอด

ค่าใช้จ่ายในการตรวจอัลตราซาวด์มดลูกที่ Beyond IVF คือ 2500 บาท ทางที่ดีคุณผู้หญิงควรตรวจภายในเป็นประจำทุกปีเมื่อเกิดความผิดปกติจะได้รีบรักษาได้ทันเวลา หากท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Line : @beyondivf

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story
บทความ

เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร? ต่างกับ อิ๊กซี่ ICSI ไหม ต้องรู้อะไรอีกบ้างก่อนทำ

Read the story
บทความ

ทำ ICSI เด็กหลอดแก้วตรวจโครโมโซม NGS ดีไหม?

Read the story
บทความ

การทำ ICSI (อิ๊กซี่) กับ IVF คืออะไร? โอกาสสำเร็จ มีลูกได้จริงไหม?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ