ในปัจจุบันผู้หญิงหลายๆคนเริ่มจะหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจภายใน หรือการอัลตราซาสด์มดลูก รังไข่ เผื่อตรวจหาความผิดปกติที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงมองข้ามการตรวจภายใน เพราะมองว่ายังไม่มีอาการอะไรไม่จำเป็นต้องตรวจก็ได้
วันนี้เราจะมาบอกถึงความสำคัญในการตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ว่ามีความสำคัญอย่างไร แล้วการตรวจนี้สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
- อัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่ (Pelvic Ultrasound)
- การตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกสำคัญอย่างไร
- อาการแบบไหนที่ควรเข้าตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก
- การเตรียมตัวก่อนตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก
- อัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่แบ่งเป็น 2 วิธี
- วิธีตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกทางหน้าท้อง
- วิธีตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกทางช่องคลอด
- ตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก บอกโรคอะไรได้บ้าง
- ค่าใช้จ่ายตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก ราคาเท่าไหร่
- ข้อสรุป
อัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่ (Pelvic Ultrasound)
เนื่องจากมดลูกและรังไข่เป็นอวัยวะภายในที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า หากเกิดความผิดปกติที่มดลูกหรือรังไข่จะไม่สามารถทราบได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจภายในเป็นประจำทุกปี เพราะโรคทางอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงในบางโรคมักจะไม่ค่อยแสดงอาการให้ทราบ และโรคที่ผู้หญิงเป็นและเสียชีวิตมากที่สุดคือ มะเร็งปากมดลูก
ทำความรู้จักมดลูกและรังไข่
มดลูกเป็นอวัยวะที่แข็งแรงมาก เพราะเป็นกล้ามเนื้อจำนวนสามชั้นเรียงทับกัน แต่มีขนาดเล็กประมาณเท่าลูกแพร์ มีลักษณะเป็นโพรงมีทางแยกเล็กๆ สามช่อง คือ ช่องคลอด และอีกสองทางแยกคือมดลูกซ้ายและขวา หรือที่เรียกว่าปีกมดลูก
รังไข่ของผู้หญิงเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็กเชื่อมต่อกับปีกมดลูก ทำหน้าที่ผลิตเซลล์สืบพันธุ์และฮอร์โมนเพศหญิง เมื่อถึงวันนั้นของเดือนรังไข่จะปล่อยไข่ที่สุกเต็มที่เข้าสู่ปีกมดลูกเพื่อเข้ากระบวนการสืบพันธุ์
การตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกสำคัญอย่างไร
1. เพื่อคัดกรองความผิดปกติ
เพื่อตรวจหาความผิดปกติ เพราะโรคบางโรคมักจะไม่แสดงอาการแต่จะถูกพบจากการตรวจภายใน เช่น เนื้องอกที่มดลูก มะเร็งปากมดลูกระยะ ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นต้น
2. ช่วยวินิจฉัยสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
ช่วยหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก แพทย์จะตรวจอัลตร้าซาวด์เช็คมดลูก รังไข่ เพื่อดูความผิดปกติจากด้านใน จะตรวจดูว่ามดลูกมีการเจริญผิดที่ไหม มีเนื้องอกในมดลูก หรือท่อนำไข่อุดตันหรือเปล่า การตรวจภายในนั้นเป็นการตรวจที่แพทย์สามารถมองเห็นได้ ไม่ซับซ้อน
อาการแบบไหนที่ควรเข้าตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก
- มีประจำเดือนมามากหรือน้อยผิดปกติ รอบเดือนนานกว่า 35 วันหรือสั้นกว่า 21 วัน ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย มีลิ่มเลือดปน มีกลิ่นเหม็น
- ตกขาวผิดปกติ มีปริมาณมาก มีสี กลิ่นที่ผิดปกติ มีตกขาวเป็นมูกข้นคล้ายแป้ง มีสีเขียวหรือเหลือง และเริ่มส่งกลิ่นแรงขึ้น มีเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
- ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือนและไม่มีประจำเดือน
- รู้สึกแสบขัดในช่องคลอด
- สงสัยว่ามีก้อนหรือคลำพบก้อนที่ท้องน้อย
การเตรียมตัวก่อนตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก
- ไม่ควรเข้ามาตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน
- ก่อนการตรวจควรงดอาหารประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500 มิลลิลิตร แล้วกลั้นปัสสาวะไว้
อัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่แบ่งเป็น 2 วิธี
มดลูกและรังไข่เป็นสิ่งที่อยู่ลึกภายใน การตรวจอัลตราซาวด์จึงแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ
- การอัลตราซาวด์โดยผ่านทางหน้าท้อง
- การอัลตราซาวด์โดยผ่านทางช่องคลอด
วิธีตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกทางหน้าท้อง
ตรวจอัลตร้าซาวด์ทางหน้าท้อง จะต้องกลั้นปัสสาวะไว้ เพื่อให้นํ้าในกระเพาะปัสสาวะช่วยดันลำไส้ออกจากช่องเชิงกราน จึงจะทำให้มองเห็นภาพมดลูก รังไข่ ได้ดีขึ้น
ขั้นตอนการตรวจอัลตร้าซาวด์ทางหน้าท้อง
- เริ่มต้นจากการให้นอนบนเตียง ทำความสะอาดบริเวณหน้าท้องให้สะอาด
- ทาเจลสำหรับอัลตราซาวน์บนหน้าท้องในบริเวณที่ต้องการตรวจ เพื่อช่วยให้คลื่นเสียงความถี่สูงสามารถผ่านได้ดียิ่งขึ้น
- เริ่มแตะหัวตรวจของเครื่องอัลตราซาวน์บนหน้าท้อง แล้วค่อยๆ เลื่อนหัวตรวจไปตามตำแหน่งที่ต้องการ คลื่นเสียงที่ส่งผ่านหัวตรวจจะสะท้อนกลับมายังเครื่องรับและแปลผลเป็นภาพบนหน้าจอให้เห็นทันที
- แพทย์ผู้ตรวจจะคอยอธิบายภาพที่เห็น บอกผล
- โดยปกติแล้ววิธีนี้จะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 30 นาที
วิธีตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูกทางช่องคลอด
ตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด โดยแพทย์จะสอดหัวตรวจอัลตร้าซาวด์ที่มีความแตกต่างจากหัวตรวจทางหน้าท้องเข้าไปทางช่องคลอด ข้อดีคือหัวตรวจจะเข้าไปใกล้ตำแหน่งมดลูกและรังไข่ได้มากกว่าการตรวจทางหน้าท้อง แพทย์จึงสามารถมองเห็นภาพของมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนกว่า
ขั้นตอนการตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด
- โดยแพทย์จะสอดหัวอัลตราซาวด์เข้าไปในช่องคลอด (หัวอัลตราซาวด์จะมีลักษณะเป็นแท่งเล็กๆที่ต่างกับการอัลตราซาวด์หน้าท้อง)
- หัวตรวจจะเข้าใกล้ตำแหน่งของมดลูกและรังไข่ได้มากกว่าการตรวจทางช่องท้อง ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นภาพของมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนกว่า
ตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก บอกโรคอะไรได้บ้าง
1. โรคช็อกโกแลตซีสต์
ทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากการที่เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ คือ แทนที่เลือดจะไหลออกมาทางช่องคลอดตามปกติ แต่กลับมีประจำเดือนส่วนหนึ่งไหลย้อนไปทางหลอดมดลูกเข้าไปในช่องท้องแล้วไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำ หรือถุงที่มีเลือดคั่ง
2. โรคมะเร็งมดลูกหรือรังไข่
โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัส HPV เป็นหนึ่งในโรคที่คุณผู้หญิงมีโอกาสเป็นได้เยอะเป็นอันดับที่ 2 รองจากมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์หรือแต่งงานแล้วจะมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
3. โรคเนื้องอกมดลูกหรือรังไข่
มักเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัย 25-30 ปี อาการที่พบคือ คลำเจอก้อนเนื้อในท้องน้อย หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ ส่วนการรักษาจะเป็นไปตามอาการ หากอยู่ในระยะแรกแพทย์จะให้รับประทานยาเพื่อสลายก้อนเนื้อ แต่ถ้าหากก้อนเนื้อนั้นไม่หายไป แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัด
4. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ทำให้มีปัญหามดลูกโต เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือบางคนก็ประจำเดือนมามากจนซีด ส่งผลให้ปวดท้องประจำเดือน รวมถึงปวดท้องน้อยเรื้อรัง
ค่าใช้จ่ายตรวจอัลตร้าซาวด์มดลูก ราคาเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาล แต่ที่ Beyond IVF ของเราราคาจะอยู่ที่ 2,500 บาท ตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้ได้ผลลัพท์ที่แม่นยำ
ข้อสรุป
การตรวจอัลตราซาวด์มดลูก และรังไข่ คือการตรวจหาความผิดปกติที่ไม่แสดงอาการและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น เนื้องอก ช็อกโกแลตซีสต์ และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น นอกจากนี้การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกยังสามารถช่วยวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากได้อีกด้วย อาการหลักๆ เมื่อเป็นและควรรีบมาพบแพทย์ คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาวผิดปกติ แสบช่องคลอด
ค่าใช้จ่ายในการตรวจอัลตราซาวด์มดลูกที่ Beyond IVF คือ 2500 บาท ทางที่ดีคุณผู้หญิงควรตรวจภายในเป็นประจำทุกปีเมื่อเกิดความผิดปกติจะได้รีบรักษาได้ทันเวลา หากท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Line : @beyondivf