ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด

ในปัจจุบันภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงหลายๆซึ่งไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่มีอายุเข้าเลข 3 แต่กลับพบในผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่านั้นอีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันผู้หญิงมีวิถีในการดำเนิดชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำงานหนักมากขึ้นส่งผลให้เกิดความเครียด เมื่องานเยอะขึ้นทำให้พักผ่อนน้อยขึ้นพักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย

ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดคืออะไร เกิดมาจากสาเหตุอะไร อาการที่บ่งบอกว่ากำลังเข้าสู่ภาวนี้มีอะไรบ้าง และมีวิธีรักษาอย่างไร

Table of Contents

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด (Premature Ovarian Failure)

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด (Premature Ovarian Failure) คือ ภาวะที่รังไข่หยุดทำงานก่อนวัยอันควร ทั้งที่ปกติแล้วรังไข่ควรจะหยุดทำงานเมื่ออายุเข้า 45-55 ปี เมื่อรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดเท่ากับว่า รังไข่จะไม่ตอบสนองต่อการทำงานของฮอร์โมน Folliclular Stimulating Hormone (FSH) จากต่อมใต้สมองที่เป็นฮอร์โมนควบคุมให้รังไข่ทำงาน

ซึ่งเมื่อฮอร์โมน FSH ไม่ทำงาน จะส่งผลให้มีอาการหงุดหงิด ปวดเมื่อยไม่มีแรง อารมณ์แปรปรวน ผิวแห้ง กระดูกพรุน เหงื่อออกตอนกลางคืน เหมือนกับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน

รังไข่เสื่อมก่อนวัยเกิดจากสาเหตุใด

premature ovarian failure คือ

1. ความผิดปกติของโครโมโซม

ความผิดปกติทางโครโมโซมที่พบบ่อยมากที่สุดคือ Turner Syndrome ซึ่งจะมีการพัฒนาของรังไข่เป็นปกติ ขณะเป็นทารกในครรภ์ แต่จะมีการฝ่อของฟองไข่อย่างรวดเร็ว ซึ่งบางรายเริ่มมีการเสื่อมของฟองไข่หรือถูกทำลายตั้งแต่ในช่วงที่เป็นทารกเลย หรือในช่วงวัยเด็ก ทำให้หยุดทำงานเร็วกว่าคนทั่วไป

2. ภูมิคุ้มกันของตนเอง

สาเหตุที่มาจากภูมิคุ้มกันของตัวเอง ได้แก่ โรคพุ่มพวง (SLE) โรคภูมิต้านทานตนเองของต่อมไทรอยด์ (Autoimmune Thyroid Disorder) โรคพาราไทรอยด์ บางรายถ้าได้รับการรักษาการทำงานของรังไข่อาจจะกลับมาทำงานปกติได้อีก

3. สาเหตุจากการผ่าตัด

หลังจากการผ่าตัด พบว่าการผ่าตัดบริเวณรังไข่บางครั้ง อาจทำให้ปริมาณฟองไข่ลดลงจากการบาดเจ็บหรือตัดเอาเนื้อรังไข่ออกไป อาจจะมีการรบกวนเส้นเลือดที่คอยมาเลี้ยงรังไข่ทำให้เนื้อรังไข่ขาดเลือดและไม่ทำงาน

4. การอักเสบติดเชื้อ

การติดเชื้อ เช่น คางทูม วัณโรค มาเลเรีย พบได้น้อยมาก แต่ก็มีรายงานการเกิดภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนวัยอันควรได้ ส่วนใหญ่เมื่อรักษาจนหายจากการติดเชื้อ รังไข่ก็มักจะกลับมาทำงานได้ปกติ

5. การให้เคมีบำบัด

การให้เคมีบำบัดหรือการได้รับรังสีจากการฉายแสงรักษา หากได้รับรังสีในปริมาณที่มากหลาย ๆ ครั้ง หรือได้รับยาเคมีบำบัดปริมาณมาก ก็จะมีผลทำลายเนื้อเยื่อของรังไข่ได้ ส่งผลให้รังไข่หยุดทำงาน

6. พฤติกรรมเสี่ยง

ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม เช่น การดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่หนักขึ้น พักผ่อนน้อยลง ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสม รวมไปถึงการสูบบุหรี่ จะทำให้การสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ยาฆ่าแมลง และโลหะหนักบางชนิด อาจจะเป็นพิษต่อเซลล์เนื้อเยื่อรังไข่ได้เช่นกัน

อาการสัญญาณเตือนรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด

ภาวะรังไข่เสื่อม

อาการที่ส่งสัญญาณเตือนภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด มีดังนี้

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาบ้างขาดบ้าง บางทีก็ทิ้งช่วงนานกว่าปกติ
  • มีภาวะมีบุตรยาก
  • มีอาการร้อนวูบวาบ
  • เหงื่อออกตอนกลางคืน
  • ช่องคลอดแห้ง
  • กระสับกระส่ายหรือสมาธิสั้น
  • มีความต้องการทางเพศลดลง
  • ผิวแห้งง่าย
  • ผมร่วง
  • นอนหลับยาก

ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด

ผู้ที่เสี่ยงภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด ได้แก่

  • กลุ่มผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 35 และ 40 ปี
  • คนในครอบครอบครัวมีประวัติภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด
  • การผ่าตัดรังไข่หลายครั้ง จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดได้
  • เคยผ่านการได้รับยาเคมีบำบัด เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็ง

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์

หากประจำเดือนขาดเป็นเวลาสามเดือนหรือมากกว่า ควรพบหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุ ประจำเดือนขาดเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การตั้งครรภ์ ความเครียด การเปลี่ยนแปลงอาหารหรือการออกกำลังกาย แต่ทางที่ดีที่สุด คือการประเมินจากแพทย์ หากรอบเดือนมีการเปลี่ยนแปลงไป

การวินิจฉัยภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด

รังไข่เสื่อม มีลูกได้ไหม

1. การซักประวัติ

แพทย์จะซักประวัติเบื่องต้น เช่น มีคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดหรือไม่ ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ประจำเดือนไม่มานานสุดกี่เดือน หากประจำเดือนขาดไปนานกว่า 1 ปี จะส่งผลให้มีอาการร้อนวูบวาบตามตัวและมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย

2. การตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน

ตรวจเลือดเพื่อหาระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของรังไข่ที่เรียกว่า ฮอร์โมน FSH (Follicular stimulating hormone) จะเป็นตัวช่วยในการวินิจฉัยภาวะนี้ หากมีค่าสูงแสดงว่ารังไข่ไม่ทำงานแล้ว (FSH 10-20 mIU/ml คือ ภาวะเสี่ยงวัยทองก่อนวัยอันควร) ตรวจระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน จะพบมีระดับต่ำ

3. การตรวจอัลตร้าซาวด์

ในการอัลตราซาวด์แพทย์อาจจะใช้เพื่อดูไข่ตั้งต้น หากไม่พบไข่ตั้งต้นเลยแพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็น ภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนวัยอันควร ทั้งนี้วิธีที่จะตรวจได้ผลชัดเจนที่สุดจะเป็นวิธีการตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย

1. ภาวะมีบุตรยาก

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย จะถือว่าเป็นผู้มีบุตรยากในทันที เนื่องจากรังไข่หยุดทำงานจึงทำให้ไม่เกิดการตกไข่ หรืออาจจะมีการตกไข่บ้างในบางรอบเดือน สำหรับผู้ที่อยากมีลูกอาจจะต้องใช้ยาในการช่วยกระตุ้นไข่ หรือฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน (Gonadotropin) ช่วยทำให้มีการเจริญเติบโตของไข่ และใช้วิธีการทำเด็กหลอดแก้วเข้ามาช่วย

2. โรคกระดูกพรุน

เมื่อรังไข่ไม่ทำงานร่างกายก็จะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะมีผลต่อการเจริญและความแข็งแรงกระดูก การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงทำให้เกิดโรคกระดูกบางและโรคกระดูกพรุนซึ่งเสี่ยงต่อกระดูกหักง่ายมากยิ่งขึ้น

การรักษาภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย

อาการรังไข่เสื่อม

1. การใช้ฮอร์โมนทดแทน

การรักษาด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและบรรเทาอาการร้อนวูบวาบได้ โดยแพทย์มักให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนร่วมกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนโดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีมดลูกอยู่ การเพิ่มฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะช่วยปกป้องเยื่อบุมดลูกจากการเปลี่ยนแปลงก่อนเป็นมะเร็งซึ่งเกิดจากการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว

2. การทานอาหารเสริมแคลเซียมและวิตามินดี

อาหารเสริมแคลเซียมและวิตามินดี มีความสำคัญสำหรับการป้องกันโรคกระดูกพรุน แพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบความหนาแน่นของกระดูกก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมเพื่อให้ได้ค่าความหนาแน่นของกระดูกเพื่อเป็นบรรทัดฐาน

3. การรักษาภาวะมีบุตรยากจากปัญหารังไข่เสื่อมก่อนวัย

การรักษาเกี่ยวกับปัญหาการมีบุตร ผู้ป่วยที่รังไข่หยุดทำงานก่อนวัยอันควร อาจจะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นที่สามารถมีการตกไข่เองในบางรอบเดือน และตั้งครรภ์ได้ หรืออาจจะลองใช้ยาช่วยกระตุ้นไข่ หรือฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน (Gonadotropin) ช่วยทำให้มีการเจริญเติบโตของไข่ และตกไข่ได้ ถ้าไม่สามารถกระตุ้นไข่ ก็อาจจะใช้ไข่บริจาคร่วมกับการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพื่อช่วยในการมีบุตรได้

แนวทางการดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย

แนวทางการดูแลตัวเองสำหรับผู้ที่มีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย มีดังนี้

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมีความพร้อม
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน
  • งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์
  • งดสูบบุหรี่
  • สิ่งสำคัญที่สุดคือการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจความพร้อมของร่างกาย และปรึกษาถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยได้
  • เข้าคลินิกวัยทอง เพื่อรับการรักษา และรับฮอร์โมนเพศหญิงในขนาดต่ำๆ มาทานเพื่อช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการขาดฮอร์โมนเป็นต้น

สำหรับวิธีการเบื้องต้น อาจจะไม่ได้ช่วยฟื้นฟูรังไข่ได้เต็มร้อย แต่ก็ช่วยให้รังไข่นั้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดโอกาสมีลูกยากได้ด้วย

วิธีป้องกันรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด

รังไข่เสื่อมก่อนวัย

วิธีป้องกันภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด มีดังนี้

  • ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาตัวจากการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด หากต้องการรักษายืดอายุไข่เพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ หมอแนะนำให้คุณใช้เทคโนโลยี “การฝากไข่” เพื่อป้องกันไข่ถูกทำลายจากรังสี
  • การลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำลายไข่ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  • การทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ไม่ทานอาหารสำเร็จรูป อาหารที่มีไขมันสูง ฟาสต์ฟู้ด
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพื่อวางแผนการตั้งครรภ์

ข้อสรุป

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด คือ ภาวะที่รังไข่หยุดทำงานก่อนวัยอันควร ซึ่งอาจจะเกิดกับผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปีก็ได้ ซึ่งสาเหตุของการเกิดภาวะนี้ เช่น ในครอบครัวมีประวัติการเป็นภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด จะทำให้ลูกหลานที่เป็นผู้หญิงก็มีสิทธิ์เกิดภาวะนี้ได้ อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเข้าสู่ภาวะนี้ คือ รู้สึกร้อนวูบวาบตาม หงุดหงิดง่าย เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไป

การรักษาภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด แพทย์จะแนะนำให้ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน เพื่อช่วยลดอาการร้อนวูบวาบตามตัว ป้องกันโรคกระดูกพรุน และจะให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพื่อปกป้องเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งหากใครกำลังกังวลว่าตนเองจะเข้าสู่ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดสามารถเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและตรวจร่างกายได้

ที่ Beyond IVF ของเราก็มีบริการให้คำปรึกษาครบวงจรเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้หญิง รวมถึงตรวจเกี่ยวกับภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด หากท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @beyondivf