Skip to content

รู้จัก 5 สมุนไพรแก้มดลูกหย่อน รักษามดลูกต่ำด้วยวิธีธรรมชาติ


26 มีนาคม 2025
บทความ

ภาวะมดลูกหย่อนหรือมดลูกต่ำ คือการที่มดลูกเลื่อนลงต่ำกว่าบริเวณอุ้งเชินกรานลงไปยังช่องคลอด โดยภาวะนี้มีระดับความรุนแรงที่ต่างกันและมักส่งผลให้คนไข้มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าปัจจุบันจะมีวิธีรักษาในทางการแพทย์แล้ว คนส่วนใหญ่ยังนิยมเลือกใช้สมุนไพรแก้มดลูกหย่อนมารักษาอาการอีกด้วย วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดภาวะมดลูกหย่อน และมาทำความรู้จักว่ามีสมุนไพรชนิดไหนบ้าง ที่จะช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้

มดลูกหย่อน มดลูกต่ำ คืออะไร

ภาวะมดลูกหย่อน คือการที่มดลูกของเราเลื่อนต่ำกว่าบริเวณช่องคลอด โดยปกติมดลูกของคนเรานั้นจะมีลักษณะคล้ายลูกแพร์มีตำแหน่งอยู่บริเวณอุ้งเชิงกราน นั้นเกิดการเสื่อมสภาพหรือไม่แข็งแรงทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อยตามมา มักพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยกลางคนจนถึงผู้หญิงสูงวัย

อาการมดลูกหย่อน

อาการมดลูกหย่อนนั้นมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้ามีระดับความรุนแรงของอาการเพิ่มมากขึ้น นั้นอาจส่งผลให้เกิดภาวะมดลูกย้อยออกมาบริเวณนอกช่องคลอด และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้มีลูกยากตามมา โดยอาการที่มักจะพบในคนไข้ที่มีภาวะมดลูกหย่อนมีดังนี้

  • ปวดหน่วงบริเวณช่องคลอดและรู้สึกเหมือนมีเนื้อเยื่อโผล่ออกมา
  • มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะเล็ด หรือปัสสาวะขัด
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีเลือดออกบริเวณช่องคลอดและมีตกขาวมาก


ปัจจัยเสี่ยงมดลูกหย่อน

ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดภาวะมดลูกหย่อนมีดังนี้

  • เคยตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร
  • ยกของหนัก
  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น
  • ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่นการไอเรื้อรังทำให้มีอาการเกร็งบริเวณช่องท้อง โรคอ้วนทำให้เนื้อเยื่อตึงหรือถูกถ่วงลงมา
  • เคยผ่าตัดบริเวณอุ้งเชิงกราน


สมุนไพรแก้มดลูกหย่อน

ในปัจจุบันนอกจากวิธีทางการแพทย์แล้วคนส่วนใหญ่มักนิยมนำสมุนไพรต่าง ๆ มาช่วยแก้อาการมดลูกหย่อนอีกด้วย เช่น รากสามสิบ กวาวเครือขาว ว่านชักมดลูก เป็นต้น โดยสมุนไพรแก้มดลูกหย่อนสามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและมีราคาไม่สูง มักจะนิยมนำมาต้มผสมน้ำหรือปั้นเป็นลูกกลอนเพื่อรับประทาน


5 สมุนไพรแก้มดลูกหย่อน บำรุงมดลูก

รายชื่อสมุนไพรที่ได้รับความนิยมนำมารักษาและบรรเทาอาการมดลูกหย่อน มีดังนี้

1. ข่าหด

ข่าหด นำสมุนไพรบริเวณเปลือกมาต้มผสมน้ำดื่มครั้งละ 1 แก้ว มีฤทธิ์ที่ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ลดอาการปวดประจำเดือน ปวดท้องเมนส์รุนแรง มีส่วนช่วยรักษาอาการมดลูกต่ำ มดลูกหย่อน แก้อาการตกขาว


2. ว่านชักมดลูก

ว่านชักมดลูก เป็นพืชที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะด้านในมีสีขาวนวล ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิง มักนิยมใช้ว่านชักมดลูกตัวเมียเป็นหลัก มีสรรพคุณรักษาอาการต่าง ๆ ของสตรี เช่น ภาวะมดลูกหย่อน ปวดท้องประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา เป็นต้น โดยนำสมุนไพรมาต้มดื่มครั้งละ 1 แก้ว

3. แก่นฝาง

แก่นฝาง ทำมาจาก แก่นเนื้อไม้นำมาต้มดื่ม มีรสชาติฝาดใส่น้ำตาลนิดหน่อยจะช่วยให้รสชาติดีขึ้น ช่วยรักษาอาการธาตุพิการ มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงโลหิต เหมาสำหรับสตรีหลังคลอดบุตร ลดอาการปวดมดลูก ขับน้ำคาวปลา ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรแก้มดลูกหย่อน

ถึงแม้ว่าสรรพคุณของสมุนไพรจะมีคุณประโยชน์หลายอย่างแต่หากว่าได้รับในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจจะให้โทษส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมา ทุกท่านควรศึกษาปริมาณในการรับประทานสมุนไพรแต่ละชนิดให้ละเอียด


ข้อสรุป

แม้ว่าสมุนไพรที่กล่าวมาจะมีสรรพคุณมากมายที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดมดลูกจากภาวะมดลูกหย่อน แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่าจะสามารถช่วยรักษาภาวะมดลูกหย่อนให้หายขาดได้ ดังนั้น หากท่านใดที่รู้สึกว่ามีอาการที่เข้าข่ายภาวะมดลูกหย่อนหรือมดลูกต่ำโปรดอย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและแนวทางในการรักษาได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้หากท่านใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line @beyondIVF

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

ตรวจฮอร์โมน AMH เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก

Read the story
บทความ

แท้งมา 3 ครั้งยังมีโอกาสท้องได้อีกไหม ? ตอบถามโดย คุณหมอกิตติ ฉัตรตระกูลชัย

Read the story
บทความ

ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด มีลูกได้ไหม? อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา

Read the story
บทความ

กรดโฟลิก (Folic Acid) คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรกับคุณแม่ตั้งครรภ์?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ