ปัญหาการมีบุตรยาก อาจจะไม่ได้มาจากฝ่ายหญิงเสมอไป แต่กลับพบว่าฝ่ายชายก็เป็นสาเหตุของการมีบุตรยากถึง 25% ส่วนการตรวจดูว่าปัญหามาจากฝ่ายชายจริงหรือไม่สามารถตรวจได้จาก การตรวจคุณภาพอสุจิ แล้วการตรวจอสุจิทำอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ตรวจอสุจิ ตรวจสเปิร์ม คืออะไร ตรวจอะไรบ้างในน้ำเชื้อ
การตรวจอสุจิ คือ การตรวจดูความปกติและผิดปกติของอสุจิโดยนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทาง เพื่อประเมินความสามารถในการมีบุตรได้ของฝ่ายชาย หรือวิเคราะห์ปัญหาทางการสืบพันธุ์ โดยมากการตรวจคุณภาพอสุจิจะหาปริมาณของอสุจิ จำนวนตัวอสุจิ การเคลื่อนไหวของอสุจิ รูปร่างของตัวอสุจิ ตรวจความสมบูรณ์ของอสุจิ ตรวจความแข็งแรงของอสุจิ และหาความผิดปกติของอสุจิ เพื่อหาสาเหตุของการมีบุตรยากจากฝ่ายชาย และแพทย์จะช่วยวางแผนเรื่องการมีบุตรเป็นลำดับต่อไป
อสุจิ คืออะไร
ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจในการตรวจอสุจิ หรือตรวจสเปริ์ม อันดับแรกต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า อสุจิคืออะไร อสุจิคือน้ำที่หลั่งออกมาเมื่อฝ่ายชายถึงจุดสุดยอด ในน้ำอสุจิประกอบไปด้วยสิ่งสำคัญที่สุดในการสืบพันธุ์ของฝ่ายชายคือ อสุจิ นอกเหนือจากอสุจิก็จะประกอบไปด้วยน้ำหล่อลื่น อาหารของอสุจิ และน้ำ ซึ่งลักษณะที่ออกมาจะมีสีขาวขุ่น โดยการมองลักษณะทางภายนอกจะไม่สามารถตอบได้ว่า ในน้ำอสุจินั้น มีตัวอสุจิมากน้อยเพียงใด หรือฝ่ายชายนั้นๆ มีความสามารถในการสิบพันธุ์หรือไม่จนกว่าจะได้รับการตรวจอสุจิ หรือการตรวจสเปิร์ม
เมื่อไหร่ที่ควรตรวจอสุจิ
เมื่อที่มีความสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแรงของอสุจิและต้องการทราบถึงภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับอสุจิหรือระบบสืบพันธุ์ เช่น การปล่อยมานานเกินกว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีบุตร คู่สมรสสามารถเริ่มตรวจได้จากฝ่ายชายก่อนเพราะมีการเตรียมตัที่ค่อนข้างน้อย ไม่ต้องเจาะเลือดหรือตรวจใดๆที่ มีการเจ็บ
หรือสามารถตรวจในฝ่ายชายที่ทำหมันมาแล้ว และต้องการตรวจเช็คอีกครั้งว่าการทำหมันนั้นสมบูรณ์หรือไม่ ก็สามารถใช้การตรวจอสุจิ หรือการตรวจสเปิร์มได้เช่นเดียวกัน
วิธีตรวจอสุจิ มีขั้นตอนการตรวจอย่างไรบ้าง
การตรวจน้ำอสุจิเป็นการตรวจหาปริมาณ จำนวน การเคลื่อนไหว และความผิดปกติทางรูปร่างของตัวอสุจิ มีอยู่ 2 วิธี คือ
- การตรวจดูด้วยตาเปล่า (Macroscopic Examination) เพื่อดูลักษณะทั่วไปของอสุจิ
- ความผิดปกติของสีน้ำอสุจิโดยรวมที่หลั่งออกมา
- ความขุ่นใสของน้ำอสุจิ
- การละลายตัว (การละลายตัวของน้ำอสุจิไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง)
- ปริมาตรของน้ำอสุจิ (น้ำอสุจิโดยปกติต่อการหลั่ง 1 ครั้งจะต้องมีปริมาณ 1.5 มิลลิลิตร ขึ้นไป)
- ความหนืด ความเป็นกรดด่างของน้ำอสุจิ
- การตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic Examination)
- จำนวนตัวอสุจิ อัตราการเคลื่อนไหว (ควรมีตัวอสุจิเคลื่อนที่อย่างน้อย 40%)
- อัตราการมีชีวิตของอสุจิ (การรอดของตัวอสุจิโดยปกติจะต้องรอด 58% ขึ้นไป)
- เปอร์เซ็นต์ของตัวอสุจิที่มีรูปร่างปกติ (ควรมีรูปร่างที่ปกติ 4% ขึ้นไป)
- เม็ดเลือดขาว (เม็ดเลือดขาวในน้ำอสุจิควรมีไม่เกิน 1 ล้านเซลล์ต่อมิลลิลิตร ถ้าเกินอาจมีการติดเชื้อ)
- เม็ดเลือดแดง (เม็ดเลือดแดงควรมีน้อยกว่า 1 ล้านเซลล์ต่อมิลลิลิตร หากพบมากกว่านี้อาจเกิดการติดเชื้อ)
เทคโนโลยีที่ใช้ตรวจอสุจิ
การตรวจอสุจิหรือตรวจสเปิร์ม ไม่ใช่การตรวจด้วยตาเปล่าแต่จะเป็นการตรวจด้วยกล้องและเทคโนโลยีการย้อมสีต่างๆ ซึ่งต้องทำด้วยนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทางด้านนี้เท่านั้น โดยเทคโนโลยีต่างๆจะช่วยให้ตรวจได้ลึกและละเอียดมากขึ้น เช่น การตรวจจำนวนตัว การตรวจความสามารถมนการรอดชีวิต ลักษณะการเคลื่อนไหว การปนเปื้อนของเซลล์เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
การตรวจเชื้ออสุจิ ต้องเตรียมตัวก่อนมาตรวจ อย่างไรบ้าง
- งดการมีเพศสัมพันธ์หรือการหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 5-7 วันก่อนเข้ามาพบแพทย์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรล้างมือและอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนทำการเก็บอสุจิ
- ไม่สามารถใช้เจลหล่อลื่นและถุงยางอนามัยขณะเก็บอสุจิได้
ผลตรวจสเปิร์ม ดูอย่างไร บอกอะไรเราได้บ้าง
- ปริมาณของน้ำอสุจิ (Volume)ต้องมากกว่า หรือ เท่ากับ 1.5 มิลลิลิตร (> 1.5 ml.)
- ความเข้มข้นของตัวอสุจิ (Sperm Concentration ต้องมากกว่า หรือ เท่ากับ 15 ล้านตัว / มิลลิลิตร (> 15 M/ml.)
- การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ (Motility) ต้องมากกว่า หรือ เท่ากับ ร้อยละ 40 (> 40%)
- รูปร่างอสุจิ / ตัวอสุจิที่ปกติ (Morphology) ต้องมากกว่า หรือ เท่ากับ ร้อยละ 4 (> 4%)
- การรอดชีวิตของตัวอสุจิ (Viability) ต้องมากกว่า 58%
- จำนวนเม็ดเลือดขาว (WBC) เม็ดเลือดขาวในน้ำอสุจิควรมีไม่เกิน 1 ล้านเซลล์ต่อมิลลิลิตร
- จำนวนเม็ดเลือดแดง (RBC) เม็ดเลือดแดงควรมีน้อยกว่า 1 ล้านเซลล์ต่อมิลลิลิตร
เก็บเชื้ออสุจิอย่างไรให้ถูกต้อง
การตรวจความสมบูณ์ของอสุจิ จะต้องมีความระมัดระวังในการเก็บเชื้ออสุจิเพราะถ้าหากเกินความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจจะส่งผลต่อผลการตรวจอสุจิได้ เช่น การเตรียมตัวก่อนมาตรวจต้องงดหลั่งอสุจิ 5-7 วัน โดยไม่มากหรือไม่น้อยไปกว่านี้ หรือระหว่างการเก็บจะต้องเก็บโดยการช่วยตัวเองเท่านั้น ห้ามมีเพศสัมพันธ์ หรือห้ามใช้ถุงยางอนามัย โดยใส่ภาชนะที่ทางสถานพยาบาลเตรียมไว้ให้เท่านั้น
ข้อจำกัดในการเก็บอสุจิ
ข้อจำกัดในการเก็บอสุจิ
หากพูดถึงข้อจำกัดในการเก็บอสุจิก็จะเป็นผู้ที่ไม่สามารถเก็บอสุจิได้ เช่น ฝ่ายชายพิการ หรือว่า ไม่มีความสามารถในหารตื่นตัวของอวัยวะเพศจนส่งผลให้ไม่มีตัวอย่างของน้ำอสุจิที่สามารถส่งเพื่อไปตรวจคุณภาพอสุจิได้
อีกข้อจำกัดหนึ่งคือ ข้อจำกัดของสถานที่การเก็บ ฝ่ายชายจะต้องเดินทางเพื่อมาเก็บที่สถานพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถเก็บจากบ้านหรือสถานที่อื่นและนำมาให้เราได้ เพราะอาจส่งผลให้ อสุจิที่นำมาเกิดความเสียกายหรือตายได้ ทั้งนี้ฝ่ายชายจึงความเตรียมความพร้อมเพื่อมาเก็บเชื้อในสถานพยาบาล
ตรวจอสุจิราคาเท่าไหร่
ตรวจน้ำเชื้อราคาหรือที่เรียกว่าตรวจคุณภาพอสุจิราคาเท่าไหร่ ที่ Beyond IVF ราคาค่าตรวจคุณภาพอสุจิจะอยู่ที่ 1,500 บาท จะครอบคลุมทั้งตรวจปริมาณน้ำอสุจิ ความเข้มข้นของอสุจิ การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ รูปร่างของอสุจิ การรอดชีวิตของตัวอสุจิ จำนวนเม็ดเลือดขาว และจำนวนเม็ดเลือดแดงในน้ำอสุจิ
ใช้เวลาในการรอผล 1-2 ชั่วโมง โดยมีการแจ้งผลผ่านนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญทุกเคส
ตรวจอสุจิที่ไหนดี เลือกคลินิกในการตรวจอย่างไร
ถ้าถามว่าตรวจอสุจิ ตรวจสเปิร์มที่ไหนดี แน่นอนว่าการเลือกสถานที่เลือกผู้เชี่ยวชาญที่จำทำการตรวจถือว่าสำคัญมาก ที่ Beyond IVF นอกจากจะมีนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจคุณภาพอสุจิในห้องปฏิบัติการแล้ว
งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาแนะนำ และวิเคราะห์ผลของอสุจิได้อย่างละเอียดถีถ้วนแนะนำถึงแนวทางการแก้ไขเมื่อผลตรวจออกมาผิดปกติได้ สถานที่หรือห้องที่ใช้สำหรับเก็บอสุจิจะมีการฆ่าเชื้อทุกครั้งแบบเคสต่อเคส มั่นใจว่าสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อโรคแน่นอน ยังมีทีมนักวิทย์ฯกับพยาบาลที่ผ่านประสบการณ์และการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจอสุจิ
ตรวจอสุจิ รู้ผลในกี่วัน
เมื่อฝ่ายชายเข้ามาเก็บตัวอย่างเชื้ออสุจิแล้วจะรู้ผลภายใน 2 ชั่วโมงหลังเก็บเชื้ออสุจิ โดยที่ Beyond IVF ของเราจะแจ้งผลคนไข้ในช่วงเย็นโดยนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทาง
ตรวจอสุจิ ต้องเว้นระยะห่างในการตรวจกี่วัน
แพทย์แนะนำให้เว้น 1 อาทิตย์ในการตรวจอสุจิ และงดหลั่งอสุจิก่อนการตรวจครั้งถัดไป