Skip to content

Forxiga: การใช้งาน ข้อมูลสำคัญ และคำแนะนำทางการแพทย์


29 มีนาคม 2025
บทความ

Forxiga: ยาสำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2

Forxiga (ฟอร์ซิก้า) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) โดยมีตัวยาสำคัญคือ Dapagliflozin ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยควบคุมน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

กลไกการทำงานของ Forxiga

Forxiga ทำงานโดยการยับยั้งโปรตีนที่เรียกว่า Sodium-glucose co-transporter-2 (SGLT2) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูดซึมน้ำตาลกลับเข้าสู่กระแสเลือดจากไต ดังนั้น การยับยั้ง SGLT2 จะช่วยเพิ่มการขับน้ำตาลออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะ

ข้อบ่งใช้ของ Forxiga

– ใช้ร่วมกับอาหารและการออกกำลังกายเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
– สามารถใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นๆ เช่น Metformin หรือ Insulin
– ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยบางราย

วิธีการใช้และคำแนะนำการใช้ Forxiga

– ปริมาณที่แนะนำคือ 10 มิลลิกรัมต่อวัน โดยสามารถรับประทานพร้อมหรือไม่พร้อมอาหาร
– ควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
– ไม่ควรเพิ่มหรือลดปริมาณยาโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ Forxiga

– ปัสสาวะบ่อยหรือมีปริมาณมากขึ้น
– ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเมื่อใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น
– ภาวะขาดน้ำหรือความดันโลหิตต่ำ


คำแนะนำเพิ่มเติม

– ผู้ป่วยควรตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
– ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ
– หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ระหว่างการใช้ยา


เคสสำเร็จและโปรโมชั่นพิเศษ

ผู้ป่วยบางรายที่ใช้ Forxiga ได้รายงานว่ามีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นและน้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ เรายังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจ สั่งซื้อ Forxiga ผ่านเว็บไซต์ของเรา

เรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ

บทความ

ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร? เรื่องน่ารู้เพื่อเพิ่มโอกาสมีลูก

Read the story
บทความ

เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร? ต่างกับ อิ๊กซี่ ICSI ไหม ต้องรู้อะไรอีกบ้างก่อนทำ

Read the story
บทความ

ทำ ICSI เด็กหลอดแก้วตรวจโครโมโซม NGS ดีไหม?

Read the story
บทความ

การทำ ICSI (อิ๊กซี่) กับ IVF คืออะไร? โอกาสสำเร็จ มีลูกได้จริงไหม?

Read the story

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ