Skip to content

ฉีดเชื้ออสุจิ

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก IUI การรักษาระดับเริ่มต้น

เครื่องมือที่มีประโยชน์
1

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) คืออะไร?

การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) เป็นกระบวนที่ต้องเตรียมอสุจิในห้องปฏิบัติการ จากนั้นนำอสุจิที่ดีที่สุดใส่เข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งคล้ายกับการมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติแต่มีคุณภาพมากกว่า

โดยในธรรมชาติ อสุจิที่ถูกหลั่งออกมามีเพียงประมาณ 1 ใน 100 ตัวที่จะไปถึงโพรงมดลูก ดังนั้น IUI จึงทำงานโดยให้โอกาสอสุจิเริ่มต้นการเดินทางไปยังไข่ได้เร็วขึ้น IUI มักจะใช้ร่วมกับยากระตุ้นการตกไข่ เช่น Clomiphene เพื่อเพิ่มจำนวนไข่ที่ตกจาก 1 ฟองเป็น 2 หรือ 3 ฟอง

2

IUI เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่เริ่มรู้ตัวว่ามีบุตรอยากและอยากเข้ากระบวณการรักษาโดยแพทย์
  • ผู้ที่ปล่อยมา 1 ปีแล้วยังไม่ตั้งครรภ์
  • ผู้ที่ตรวจร่างกายทั้งสองฝ่ายแล้วพบปัญหาไม่ซับซ้อน
  • ผู้ที่มีปัญหาที่ฝ่ายชาย อสุจิมีปัญหาเพียงเล็กน้อย
3

ข้อดีข้อเสียของการทำ IUI

ข้อดี
ข้อเสีย

  • ขั้นตอนง่ายไม่ซับซ้อน
  • ใช้เวลาไม่นาน
  • ราคาถูก
  • โอกาสสำเร็จเพิ่มจากธรรมชาติเพียงเล็กน้อย
  • แก้ไขปัญหาการมีบุตรยากบางอย่างไม่ได้
  • ทำหมันแล้วไม่สามารถทำได้
4

ขั้นตอนการรักษาแบบการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI)

  1. เข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์
  2. แพทย์วางแผนการรักษา
  3. เริ่มรับประทานยากระตุ้นไข่
  4. ตรวจติดตามกับแพทย์
  5. ฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยแพทย์
  6. รอผลการตั้งครรภ์ 14 วัน

พร้อมที่จะเริ่มการเดินทางด้านการรักษามีบุตรยากของคุณแล้วหรือยัง?

จองคิวปรึกษาทางโทรศัพท์ฟรี 15 นาที กับพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยากของเรา

จองตอนนี้

นาฬิกาสุขภาพ

เครื่องมือนี้ระบุ :

  • โอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในแต่ละเดือน หากไม่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
  • อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงอายุเดียวกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพยายามตั้งครรภ์ไม่สำเร็จเป็นระยะเวลากี่เดือน

หากคุณกังวลไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม เราขอแนะนำให้ลงนัดแพทย์หรือขอคำปรึกษาจากพยาบาลฟรี ยิ่งคุณวางแผนได้เร็วเท่าไรโอกาสของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ควรขอคำแนะนำ

  • หากคุณมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เราขอแนะนำให้คุณติดต่อเราทันที เพื่อที่เราจะได้อธิบายทางเลือกทั้งหมดและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้มากที่สุด
  • หากคุณเป็นผู้หญิงที่มีสถานะโสดและกำลังพิจารณาว่าอยากมีลูกในอนาคต ควรเข้ามาปรึกษาเราแต่เนิ่น ๆ และพิจารณาการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่คุณยังมีไข่จำนวนมาก และสุขภาพของไข่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
กำหนดอายุของคุณและระยะเวลาที่คุณพยายามตั้งครรภ์ (เป็นเดือน)
26
2
โอกาสในการมีบุตรต่อเดือนสำหรับคู่รักที่มีภาวะเจริญพันธุ์ปกติ
โอกาสในการมีบุตรต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากมีภาวะมีบุตรยาก

เครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

การมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจจะลดความสามารถในการมีบุตรได้ ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวบ่งชี้น้ำหนักตัวของคุณและสามารถคำนวณได้โดยการหารน้ำหนักด้วยส่วนสูง คุณควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 20 ถึง 25 เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ค่าดัชนีมวลกายของผู้หญิงต่ำกว่า 19

แม้ในยุคปัจจุบัน ธรรมชาติของร่างกายก็ยังรู้ดีที่สุด หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

น้ำหนักน้อยเกินไป

หากดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้หญิงต่ำกว่า 19 ร่างกายจะรับรู้ถึงภาวะขาดแคลนอาหารและจะหยุดการตกไข่เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่อาจทำให้ทารกขาดสารอาหาร การออกกำลังกายมากเกินไปสามารถลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหักโหมมากเกินไปอาจทำให้ประจำเดือนหยุดลงด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้นในผู้หญิงที่มี BMI ต่ำอีกด้วย

ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

สิ่งนี้สามารถลดความสามารถในการมีบุตรได้ถึง 50% การตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มี BMI สูงกว่า 30 มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ทารกตัวใหญ่ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการผ่าคลอด

เพิ่มส่วนสูงและน้ำหนักของคุณเพื่อคำนวณดัชนีมวลกายของคุณ