มดลูกสำคัญแค่ไหนต่อการมีลูก? โดยสาเหตุหลักของการมีบุตรยากส่วนใหญ่มักเกิดจากมดลูกที่มีปัญหาเลยไม่สามารถทำให้ตัวอ่อนเกิดการฝังตัวได้ และปัญหาที่เกิดจากมดลูกก็มีหลายประเภท
1) ปัญหาเยื่อบุภายในช่องท้อง (Peritoneal Factor) เยื่อบุช่องท้อง (Peritoneum) เป็นเนื้อเยื่อที่ปกคลุมอวัยวะ
ภายในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน รวมถึงมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ การอักเสบของเยื่อบุช่องท้องอาจจะทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) บริเวณเยื่อบุช่องท้องที่ปกคลุมมดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ จนอาจทำให้เกิดพังผืด (Adhesion) และเนื้องอกมดลูก (Myoma Uteri หรือ Fibroid) ที่อาจเป็นสาเหตุภาวะมีบุตรยากได้เช่นกัน พบได้ประมาณ 35% ของผู้หญิงที่มีบุตรยากโดยที่ตรวจไม่พบสาเหตุอื่น ซึ่งมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดประจำเดือนมาก ปวดท้องน้อยเรื้อรัง หรือมีอาการเจ็บลึก ๆ ในช่องคลอดและท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ แต่ในบางรายก็ไม่มีอาการผิดปกติ
ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นถุงน้ำรังไข่ชนิดหนึ่งที่เกิดจากภาวะเยื่อบุโพรง
มดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) แล้วไปฝังตัวที่รังไข่และต่อมาพัฒนาเป็นถุงน้ำที่มีของเหลวคล้ายช็อกโกแลตอยู่ข้างใน ซึ่งภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นี้จะทำให้คุณภาพไข่น้อยลง บางคนต้องทำการผ่าตัดอาจทำให้จำนวนไข่ในรังไข่ลดลงด้วย นอกจากนั้นยังทำให้โอกาสการฝังตัวที่มดลูกของตัวอ่อนลดลงโดยเฉพาะคนที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก
เนื้องอกมดลูก (Myoma Uteri หรือ Fibroid) พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ขึ้นอยู่กับขนาด จำนวน และโดยเฉพาะตำแหน่งของเนื้องอก ซึ่งเนื้องอกมดลูกอาจจะทำให้การฝังตัวในมดลูกไม่ได้ หรือมีภาวะแท้งได้ง่ายวิธีการรักษาคือ อาจจะให้ยาลดขนาดเนื้องอก ซึ่งมักไม่ค่อยได้ผลดี สุดท้ายถ้าคุณหมอประเมินแล้วมีผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อนมากก็จะต้องได้รับการผ่าตัด
วิธีการตรวจหาสาเหตุ
- ส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง (Laparoscopy)
- ส่องกล้องผ่านโพรงมดลูก (Hysteroscopy)
วิธีการรักษา
- ผ่าตัดโดยส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง (laparoscopic myomectomy)
- ผ่าตัดโดยผ่านกล้องส่องในโพรงมดลูก (hysteroscopic myomectomy)
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://th.wikipedia.org
2) ปัญหาท่อนำไข่ (Tubal Factor) ในกระบวนการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ท่อนำไข่เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นที่ที่ไข่และอสุจิจะพบกันและเกิดการปฏิสนธิ การตรวจสอบว่าท่อนำไข่มีการตีบตันหรือไม่ แพทย์จะแนะนำโดยการตรวจดูท่อนำไข่ ดังนี้
วิธีการตรวจดูท่อนำไข่ตัน
- ตรวจเอกซเรย์ฉีดสีดูท่อนำไข่ (Hysterosalpingogram – HSG)
- ตรวจผ่านกล้องดูในอุ้งเชิงกราน (Laparoscopy)
เพื่อประเมินสภาวะของท่อนำไข่และในบางกรณีอาจทำการผ่าตัดแก้ไขท่อนำไข่ที่ตีบตันได้ ในผู้หญิงที่ผลการตรวจ HSG หรือการผ่าตัดผ่านกล้องยืนยันว่าท่อนำไข่ตีบตันทั้งสองข้างจะไม่สามารถมีลูกได้โดยวิธีธรรมชาติหรือวิธีการฉีดน้ำเชื้อ IUI แพทย์จะประเมินการรักษาด้วยวิธีอื่น
วิธีการรักษาด้วยวิธีเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์
- วิธี ICSI เด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization – IVF)
และในบางรายที่พบว่าท่อนำไข่มีการตีบตันและมีการบวมน้ำร่วมด้วย (Tubal Obstruction with Hydrosalpinx) แนะนำให้ผ่าตัดท่อนำไข่ที่บวมน้ำออกก่อนโดยการผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Salpingectomy) จึงจะสามารถย้ายตัวอ่อนที่ได้จากกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วกลับเข้าสู่โพรงมดลูกในภายหลังได้
ถ้าคุณผู้หญิงท่านใดมีความกังวลใจสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Beyond IVF หรือจะแอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ @beyondivf