ผนังมดลูกหนา (Thick uterine wall) มีลูกยากจริงไหม เพราะอะไร
ปัจจุบันพบว่า ผู้หญิงมีภาวะผิดปกติทางร่างกายที่ส่งผลให้มีบุตรยาก เพิ่มมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ทั้งเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ เรื่องอายุ สิ่งแวดล้อม และเรื่องอาหาร ดังนั้น นอกจากการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว การสังเกตความผิดปกติของตัวเอง รวมถึง การตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคร้าย และลดภาวะมีบุตรยากได้ ซึ่งหนึ่งในโรคที่คุณผู้หญิงควรรู้จักและเข้าใจ เพราะส่งผลต่อการมีบุตรได้นั่นคือ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ ที่นอกจากจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีลูกยากแล้ว หากปล่อยโรคนี้ทิ้งไว้เรื้อรังไม่รักษาให้หาย อาจมีอันตรายถึงขนาดเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ คืออะไร
โดยปกติทั่วไป ผนังมดลูกที่มีความหนาตั้งแต่ 8 มิลลิเมตรขึ้นไป จะเพิ่มโอกาสและความสำเร็จในการฝังตัวอ่อนมากขึ้น และไม่ควรเกิน 14 มิลลิเมตร เพราะถ้าผนังมดลูกหนาจนเกินไปจะทำให้เสี่ยงมีลูกยาก ซึ่งความหนาของผนังมดลูก เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) หรือฮอร์โมนเพศหญิงเป็นหลัก เพื่อให้มีการเจริญเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูก ส่วนช่วงหลังการตกไข่ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน(Progesterone) หรือเรียกอีกชื่อว่าฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกสุก พร้อมรับการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะค่อยๆ ลดลง และเยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอกออกมาทั่วทั้งโพรงมดลูก เป็นเลือดประจำเดือนตามปกติ ดังนั้น หากมีภาวะการตกไข่ผิดปกติ หรือไม่มีการตกไข่ จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่เป็นตัวช่วยให้เกิดการสุกของเยื่อบุโพรงมดลูก การลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกตามปกติ ก็จะไม่เกิด หรือเกิดเฉพาะบางจุด ดังนั้นเยื่อบุโพรงมดลูกจะยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหตุทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติและมีเลือดออกผิดปกติได้
อาการที่ควรสังเกต
- ประจำเดือนไม่มา 3-4 เดือน พอเดือนไหนประจำเดือนมาจะมีปริมาณมากผิดปกติ
- มีรอบเดือนสั้นกว่า 28 วัน
- มีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอด
- มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หน้ามัน เป็นสิว
- มีขนตามตัวเพิ่มมากขึ้นหน้าอกแฟบลง รวมถึงอาจมีเสียงห้าวขึ้น
- ปวดท้องประจำเดือน อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับบางคน เพราะอาการปวดประจำเดือนนั้นมักเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งหากเกิดในรังไข่เรียกว่า ชอคโกแลตซีสต์ ได้ ถ้าเป็นที่กล้ามเนื้อมดลูกจะทำให้มดลูกหนาตัว รูปร่างเป็นทรงกลม ซึ่งภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาจมีอาการคล้ายคลึงกันกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ หรือเกิดร่วมกันก็ได้ ดังนั้น ต้องพบแพทย์ เพื่อตรวจภายใน และอัลตราซาวน์ ในการช่วยแยกแยะสาเหตุ
สำหรับคุณผู้หญิงท่านใดไม่ได้มีอาการดังกล่าว แต่มีความกังวลเกี่ยวกับโรคนี้ ก็สามารถเข้ามาตรวจกับสูตินารีแพทย์ก่อนได้นะคะ
การตรวจเพื่อหาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ
การตรวจโรคนี้สามารถตรวจได้ด้วยการเข้าไปปรึกษาสูตินารีแพทย์ตามโรงพยาบาล แพทย์จะสอบถามอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้น รวมถึงประวัติสุขภาพของคุณผู้หญิง การตรวจแพทย์จะใช้การอัลตราซาวด์เพื่อดูและตรวจเช็กความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก แต่ถ้าคุณผู้หญิงท่านใดมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติแพทย์จะมีการตรวจเพิ่มเติม คือ การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และการขูดมดลูก เพื่อนำตัวอย่างไปวิเคราะห์ผล และการส่องกล้องดูความผิดปกติในมดลูก
หากเข้าตรวจและพบว่ามีความผิดปกติอย่างไรแพทย์จะมีคำแนะนำที่เหมาะสมให้แต่ละบุคคล
เพราะเหตุใด ถึงเป็นโรคนี้
ปัจจัยหลักที่เป็นสาเหตุของโรคนี้คือ ความอ้วน เบาหวาน ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ โดยโรค เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ มักเกิดกับกลุ่มคุณแม่หรือผู้หญิงสูงอายุช่วงใกล้หมดประจำเดือนและหลังหมดประจำเดือน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่า แต่ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อยก็สามารถเป็นโรคนี้ได้
โรคนี้ถ้าปล่อยไว้ อันตรายถึงมะเร็ง
เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ นอกจากจะทำให้มีบุตรยากแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ทั้งที่มีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ โรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน ควรไปตรวจร่างกายและดูดเซลล์ในโพรงมดลูกมาตรวจอย่างละเอียด เพราะหากพบว่าเซลล์มีการแบ่งตัวผิดปกติหรือเป็นเซลล์มะเร็งจะได้รักษาอย่างทันท่วงที
รีบตรวจรักษาสามารถหายได้
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีบุตรยาก เนื่องจากคนที่เป็นโรคนี้จะมีภาวะไข่ไม่ตก หรือ ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นโอกาสปฏิสนธิจึงเกิดขึ้นได้ยาก และถึงแม้ว่ารอบเดือนนั้นมีการปฏิสนธิ ตัวเยื่อบุโพรงมดลูกก็ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่จะรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆ ควรรีบตรวจร่างกายและรักษาให้หายก่อนจะดีที่สุด
ฝากถึงคุณผู้หญิงทุกคน
“คุณผู้หญิงควรใส่ใจเรื่องของรอบเดือนเป็นพิเศษ สังเกตว่าประจำเดือนมาสม่ำเสมอดีหรือไม่ หากมาไม่ปกติรวมถึงมีภาวะอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น มีขนเพิ่มมากขึ้น เป็นสิว หน้ามัน ควรไปตรวจดูว่าเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หรือเปล่า เนื่องจากกลุ่มนี้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาค่อนข้างเยอะ ทั้งเรื่องมีบุตรยาก เรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ และหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ บางรายหลังจากรอบเดือนไม่มาหลายๆ เดือน พอรอบเดือนมาจะมีภาวะเลือดออกมากผิดปกติ ถึงขั้นตกเลือดได้”
สุดท้าย โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติสามารถกลับมาเป็นได้อีก โดยเฉพาะ ถ้ายังไม่ออกกำลังกาย และยังมีน้ำหนักตัวที่มากเกินเกณฑ์
ถ้าคุณผู้หญิงท่านใดมีความกังวลใจสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Beyond IVF หรือจะแอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ @beyondivf
ขอบคุณข้อมูลจาก :