หลังใส่ตัวอ่อนไปแล้วกี่วันถึงสามารถตรวจ HCG (beta-HCG) ได้
เร็วที่สุดคือ 10-14 วัน ถ้าเป็นมาตรฐานทั่วไปแนะนำให้ตรวจตอนครบ 14 แต่ถ้าคุณแม่บางท่านใจร้อนอยากจะรู้โยเร็วจะตรวจตอนครบวันที่ 10 ก็ได้ แต่ถ้าผลมันยังไม่ขึ้นว่าตั้งครรภ์ คุณแม่อย่าเพิ่งตกใจก็ให้รอครบ 14 วันแล้วไปตรวจเพื่อคอนเฟิร์มอีกที
HCG (beta-HCG) คืออะไร
ฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG) เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากเซลล์ของรก ระดับของฮอร์โมนจะเริ่มตรวจพบเมื่อ 11 วันหลังจากการมีปฏิสนธิ และจะตรวจพบในปัสสาวะหลังจากปฏิสนธิ 12-14 วัน ระดับฮอร์โมนจะมีค่าเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 3 วัน ระดับฮอร์โมนจะขึ้นสูงสุดที่ 8-11 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นค่าจะลดลงและคงที่ตลอดการตั้งครรภ์
การตรวจ HCG (beta-HCG) มี 2 วิธีคือ
1. การตรวจครรภ์ด้วยตัวเองโดยอุปกรณ์ตรวจครรภ์ ซึ่งการแสดงผลการตรวจของชุดทดสอบการตั้งครรภ์ จะแสดงเป็น แถบขีดสี ถ้าขึ้น 2 ขีด (ขึ้นที่ขีด C และ T) คือ ผลบวก แสดงว่า มีโอกาสตั้งครรภ์ และ ขีดเดียว (ขึ้นที่ขีด C เพียงอย่างเดียว) คือ ผลลบ แสดงว่า ไม่ตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่มีขีดใดขึ้นเลย แสดงว่าที่ตรวจครรภ์เสียหรือหมดอายุ หรือเกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ ต้องตรวจใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามการตรวจครรภ์ด้วยวิธีนี้จะไม่สามารถให้ผลได้ 100% ซึ่งอาจเกิดผลลบลวง หรือ ผลบวกลวงได้ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ที่แม่นยำกว่า
2. การตรวจครรภ์ด้วยแพทย์จะเป็นการตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์เป็นวิธีตรวจฮอร์โมน hCG และยืนยันผลโดยนักเทคนิคการแพทย์ ด้วยวิธีการตรวจจากฮอร์โมน Beta-hCG ซึ่งจะทราบผลหลังจากปฏิสนธิ ใช้เวลารอฟังผลประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งผลการตรวจจะสามารถบ่งบอกการตั้งครรภ์ได้แน่นอน ทั้งนี้การตรวจครรภ์วิธีนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจให้รู้แน่ชัดโดยไว เช่น ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก หรือมีประวัติแท้งบุตร ต้องการข้อมูลเพื่อวางแผนการดูแลให้ฮอร์โมนเสริมต่างๆ เพื่อป้องกันการแท้งบุตร เป็นต้น
ค่าฮอร์โมนมาตรฐานของ HCG
ทั้งนี้ผลเลือดไม่ได้ยืนยันว่าตั้งครรภ์ 100% แพทย์จะวินิจฉัยร่วมกับการ Ultrasound ถุงการตั้งครรภ์และการพบหัวใจของเด็กอีกครั้ง หากคุณแม่ท่านไหนสนใจตรวจสามารถเข้ามาปรึกษาที่ Beyond IVF หรือแอดไลน์มาเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ @beyondivf